EP.23 รถเมล์เมืองพม่า
กรุงย่างกุ้งในอดีตนั้นเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศเมียนมาร์หรือที่เรามักเรียกกันติดปากว่าพม่า แต่ปัจจุบันเมืองหลวงของพม่าคือกรุงเนปิดอว์ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมทางราชการของประเทศ แต่สำหรับกรุงย่างกุ้งก็ยังคงเป็นเมืองใหญ่และเมืองสำคัญของประเทศเพราะระบบเศรษฐกิจส่วนใหญ่ก็ยังคงกระจายอยู่ที่กรุงย่างกุ้ง สถานที่สำคัญ ธนาคาร สถาบันการเงิน มหาวิทยาลัยต่างๆก็ยังมีให้เห็นอยู่ทั่วในกรุงย่างกุ้ง แม้กระทั่งการเดินทางต่างๆไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เรือโดยสาร รถไฟ เครื่องบินก็ยังตั้งปักหลักที่ย่างกุ้งกันเยอะ ขนาดสนามบินนานาชาติที่บินระหว่างประเทศก็ยังมีอยู่ในกรุงย่างกุ้งเช่นกัน ดังนั้นย่างกุ้งจึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางการคมนาคมที่สำคัญของประเทศพม่ากันเลยทีเดียว
เวลาที่ผมไปเที่ยวพม่าก็จะไปลงที่สนามบินในย่างกุ้งแล้วเที่ยวก่อนสัก 1-2 วันจากนั้นก็จะตระเวนไปเที่ยวตามเมืองต่างๆพอจะกลับกรุงเทพฯก็ต้องกลับมาที่กรุงย่างกุ้งเพื่อที่จะขึ้นเครื่องบินกลับเมืองไทย ก่อนกลับไทยก็จะอยู่เที่ยวอีกสัก 1-2 วันผมเลยคุ้นเคยกับที่กรุงย่างกุ้งมากกว่าเมืองอื่นๆในพม่า ด้วยความที่คุ้นเคยและเห็นอะไรหลายๆอย่างจึงอยากลองทำอะไรในแบบที่คนพม่าท้องถิ่นเขาทำกัน สิ่งที่ง่ายที่สุดก็คือการเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะซึ่งในกรุงย่างกุ้งนั้นรถเมล์ถือว่าเป็นรถสาธารณะที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากชาวพม่าในแต่ละวันจะมีผู้คนใช้บริการกันอย่างคับคั่งและรถเมล์ก็มีให้บริการอยู่หลายสายไม่แพ้กับที่เมืองไทย แต่มีสิ่งที่แตกต่างที่ผมเห็นได้ชัดระหว่างรถเมล์พม่ากับรถเมล์ไทย คือ รถเมล์พม่าจะไม่มีกระเป๋ารถเมล์คอยเก็บเงินผู้โดยสารแบบเมืองไทยอีกแล้ว แต่เขาจะใช้ระบบแบบตู้เก็บเงินอัตโนมัติแบบในยุโรปคือให้ผู้โดยสารหย่อนเงินลงไปในตู้ที่ตั้งอยู่ข้างๆคนขับซึ่งวิธีนี้ค่อนข้างสะดวกสบายแต่มีข้อแม้คือต้องเตรียมเงินให้พอดีกับค่าโดยสารเพราะเขาไม่มีระบบทอนเงินนั่นเอง
ผมมีโอกาสได้นั่งรถเมล์ของพม่าในช่วงวันที่ใกล้จะกลับเมืองไทย โดยเลือกไปรอรถเมล์ที่ตรงๆแถวย่านเจดีย์สุเลซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คประจำกรุงย่างกุ้ง ถ้าเปรียบกับไทยก็คงประมาณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิซึ่งจะเป็นมีรถเมล์หลายสายให้เลือกใช้บริการ โดยผมเลือกนั่งสาย 29 ซึ่งจะไปสุดสายที่มหาวิทยาลัยดากอน ส่วนราคานั้นค่อนข้างจะถูกซึ่งก็คือเงินแค่ 200 จ๊าดตลอดสายซึ่งถ้าหากตีเป็นเงินไทยก็จะเท่ากับว่าแค่ 4 บาทเท่านั้น แถมรถเมล์ที่ผมนั่งไปก็เป็นรถแอร์ปรับอากาศอย่างดีซึ่งราคาแบบนี้เทียบกับคุณภาพของรถเมล์ผมว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่เสียอย่างเดียวคือคนขับนั้นดันเป็นวัยรุ่นกำลังห้าวซึ่งก็ขับซิ่งน่าดู แต่ก็ถือว่าได้ความตื่นเต้นกันไปคิดเอาซะว่ากำลังนั่งอยู่บนรถเมล์สาย 8 ของบ้านเราไปแล้วกัน ซึ่งผมนั่งไปไม่ได้ถึงสุดสายแต่นั่งไปลงแค่ตรงทะเลสาบกันดอว์จีซึ่งระยะเวลาไม่นานนัก แต่การขึ้นรถเมล์ที่พม่าถือว่าเป็นความประทับใจอย่างหนึ่งสำหรับตัวผม เพราะการได้ทำอะไรแบบที่คนท้องถิ่นทำกันใช้ชีวิตแบบคนท้องถิ่นคือสิ่งที่ผมชื่นชอบอย่างมากเวลาเดินทางไปยังต่างประเทศ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น