EP.26 ทะเลสาบปล่องภูเขาไฟกัมพูชา
รัตนคีรี คือ จังหวัดที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกของกัมพูชา โดยมีเมืองเอกก็คือเมืองบ้านลุง สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆของจังหวัดรัตนคีรีจะเป็นแนวธรรมชาติซะส่วนใหญ่ เพราะพื้นที่ส่วนมากจะเป็นป่าไม้และภูเขาซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่รัตนคีรีทำให้ยังสามารถพบเห็นพวกสัตว์ป่าได้แม้ว่าในยุคปัจจุบันนั้นจะลดลงไปมากกว่าเดิม เนื่องจากการถูกล่าจากน้ำมือของมนุษย์ แต่เมื่อมีหน่วยงานและองค์กรต่างๆที่ร่วมกันออกกฎคุ้มครองสัตว์ทำให้การล่าทำได้ยากยิ่งขึ้นและสัตว์ป่าก็ได้รับความคุ้มครองมากยิ่งขึ้นซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เมื่อมีป่าไม้มีธรรมชาติก็ย่อมมีสัตว์ป่า มันคือของที่อยู่คู่กันมาอย่างยาวนานและจะคงอยู่ตลอดไป
ผมได้ไปเยือนจังหวัดรัตนคีรีเมื่อตอนเดือนตุลาคมปี 2019 เท่าที่สังเกตุระหว่างที่นั่งรถผ่านก็รู้สึกว่าจังหวัดนี้น่าจะเหมือนประมาณแถบภาคอีสานบ้านเรา บรรยากาศยังดูมีความเป็นชนบทอยู่มาก ส่วนเรื่องที่พักก็จะไม่ค่อยมีโรงแรมมากนักส่วนใหญ่จะหนักไปทางพวกที่พักประเภทโฮมสเตย์ที่เจ้าของจะดูแลด้วยตนเองซึ่งจะถือว่ามีความเป็นกันเองที่ดีกว่าโรงแรม ส่วนมากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเป็นพวกฝรั่งตาน้ำข้าวประเภทแบ็คแพ็คเกอร์ที่รักการผจญภัย เพราะรัตนคีรีเป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การผจญภัยและศึกษาธรรมชาติ โดยสถานที่เที่ยวอันดับ 1 ของจังหวัดก็คือ บึงยักษ์ลม ซึ่งจะมีลักษณะเป็นทะเลสาบจากปล่องภูเขาไฟที่มีการระเบิดโดยมีอายุไม่ต่ำกว่า 4000 ปี ซึ่งแน่นอนว่าคนจังหวัดรัตนคีรีส่วนใหญ่รู้จักกันแทบทุกคน ขณะเดียวกันคนในจังหวัดอื่นๆของกัมพูชาส่วนมากก็รู้จักกัน ถ้าเปรียบกับเมืองไทยก็คงประมาณเขาใหญ่ที่คนไทยส่วนมากจะรู้จักกันแม้จะไม่ใช่คนโคราชก็ตาม ส่วนวิธีการเดินทางไปนั่นก็ไม่ยากเท่านั้นเพราะห่างจากตัวเมืองบ้านลุงแค่ประมาณ 4 กิโลกว่า ผมไปทั้งสิ้น 2 ครั้งวันแรกจ้างมอเตอร์ไซค์ให้พาไปส่ง ส่วนวันรุ่งขึ้นเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เอง ส่วนตั๋วเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติจะอยู่ที่ 2 ดอลล่าร์หรือประมาณ 60 กว่าบาทแต่ถ้าเป็นคนท้องถิ่นจะซื้อได้ในราคาที่ถูกกว่า
ส่วนบรรยากาศภายในบึงยักษ์ลมค่อนข้างกว้างใหญ่มาก มีในส่วนที่ทะเลสาบสีฟ้าสดใสซึ่งจะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวจะมาเล่นน้ำผ่อนคลายกัน ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะเป็นพื้นที่ของป่าดิบชื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์และจะมีทางเดินให้ได้เดินเป็นเส้นทางสำรวจธรรมชาติรอบๆบึงยักษ์ลม เท่าที่ผมถามมอเตอร์ไซค์ที่ผมเหมามาพี่แกบอกว่าระยะทางเดินหากใช้เวลาจนครบ 1 รอบจะใช่เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง แต่สิ่งที่ต้องระวังคือทางเดินไม่ได้สะดวกสบายมากนักเพราะมีทั้งก้อนหินและเนินซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังในการเดินและควรหารองเท้าที่สวมใส่สบายเหมาะแก่การเดินลุยป่า โดยผมใช้เวลาเดินสำรวจบรรยากาศภายในบึงยักษ์ลมประมาณเกือบ 3 ชั่วโมง เดินเล่นชิวๆเพลินๆบางทีก็นั่งมองนักท่องเที่ยวเล่นน้ำซึ่งวันที่ผมจะเจอคนกัมพูชาแทบทั้งนั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติมีประปรายนอกจากนั้นเขายังมีจุดที่เป็นกระท่อมให้ได้นั่งสั่งอาหารหรือกับแกล้มรวมถึงจุดของบ้านของชนเผ่าที่อาศัยในจังหวัดรัตนคีรีแถมยังมีบริการให้เช่าชุดของชนเผ่าเพื่อถ่ายรูปแบบสวยๆเก๋ๆซึ่งได้รับความนิยมจากหนุ่มสาวชาวกัมพูชาอย่างมาก หากมีโอกาสผมก็คงจะกลับไปเที่ยวที่บึงยักษ์ลมอีกแน่นอนและไปคราวหน้าก็ตั้งใจจะไปเล่นน้ำให้สดชื่นและชุ่มฉ่ำทดแทนกับครั้งแรกที่ได้มองคนอื่นๆเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น