วันศุกร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2564

 

EP.28 ถนนคนเดินมะละกา

ทุกวันนี้คำว่า ถนนคนเดิน ต่างก็เป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นกันได้ทั่วไปซึ่งในเมืองไทยก็มีถนนคนเดินในหลากหลายที่และหลากหลายจังหวัดซึ่งก็ไม่ต่างจากประเทศอื่นๆทั่วโลก โดยหนึ่งในถนนคนเดินที่มีชื่อเสียงโด่งดังไกลไประดับโลกก็คงหนีไม่พ้น ถนนคนเดินในประเทศมาเลเซีย โดยถนนคนเดินแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองมะละกาซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมของมาเลเซียเลยทีเดียว โดยในอดีตนั้นมะละกาจัดว่าเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการขนส่งสินค้าซึ่งแต่เดิมนั้นก็จะมีบรรดาชาติมหาอำนาจในยุโรปที่เป็นชาติล่าอาณานิคมเป็นเจ้าของพื้นที่อย่างเช่นพวกดัตช์ จนเมื่อมาเลเซียได้รับเอกราชก็ได้มีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของเมืองมะละกาไปด้วยและลดความสำคัญในการคมนาคมทางเรือลงไปและให้ความสำคัญในการพัฒนาเมืองจนกลายเป็นหนึ่งในเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมพอๆกับ กัวลาลัมเปอร์หรือปีนัง

ผมมาเที่ยวและได้พักที่มะละกาอยู่ประมาณ 3 วัน 2 คืนโดยช่วงที่ไปพักก็ตรงกับช่วงสุดสัปดาห์พอดีซึ่งในทุกสุดสัปดาห์เริ่มตั้งแต่วันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ที่มะละกาจะมีการปิดถนนตรงช่วง Jalan Hang Jebat และทำให้กลายเป็นถนนคนเดิน สำหรับวันศุกร์นั้นจะเริ่มกันประมาณช่วงเย็นๆ แต่ถ้าเป็นเสาร์อาทิตย์ก็จะเริ่มมีของมาวางขายตั้งแต่ตอนช่วงบ่ายกันเลยทีเดียว สำหรับของที่นำมาขายส่วนใหญ่เลยก็คือของกินซึ่งก็มีมากมายหลากหลายให้เลือกสรรเรียกได้ว่าถูกใจสายกินอย่างแน่นอน ส่วนที่ผมเห็นรองลงมาก็จะเป็นพวกของกิ๊ฟช็อปงานฝีมือต่างๆและที่ผมสังเกตุเห็นได้อีกอย่างหนึ่งคือ ถนนคนเดินในมะละกากลุ่มพวกพ่อค้าแม่ค้าจะเป็นคนมาเลย์เชื้อสายจีนล้วนๆแทบไม่มีกลุ่มชาวมาเลย์เชื้อสายมลายูเลย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าในมาเลเซียถึงแม้จะมีการรวมกันของ 3 เชื้อชาติคือ ชาวมลายูที่เป็นมุสลิม คนเชื้อสายจีนและกลุ่มคนเชื้อสายทมิฬซึ่งมาจากทางอินเดีย แต่พวกเขาก็จะแยกกันอยู่แบบชัดเจนไม่ค่อยมารวมกลุ่มกันเท่าไหร่นักเรียกได้ว่ากลุ่มใครกลุ่มมันและในมาเลย์เองก็ยังคงมีนโยบายภูมิบุตรที่ให้อภิสิทธิ์แก่ชาวมลายูมากกว่าคนเชื้อชาติอื่นๆอยู่พอสมควร

ขณะที่ถนนคนเดินที่มะละกาเขาจะมีชื่อเรียกว่า ถนนยองเกอร์ สำหรับที่มาที่ไปของชื่อถนนผมก็ไม่ได้มีข้อมูลอะไรมากนัก แต่ในช่วงสุดสัปดาห์ถนนสายนี้จะมีความคึกคักเป็นอย่างมากและจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวซึ่งส่วนมากก็จะเป็นชาวต่างชาติ ของกินก็ละลานตาเต็มไปหมดมีร้านอาหารให้คนได้มานั่งทาน ของคาวของหวานต่างๆแต่ที่เป็นทีเด็ดคงหนีไม่พ้น น้ำมะม่วงปั่น ซึ่งเขาจะใช้มะม่วงแบบสดๆไม่มีการผสมน้ำตาล ส่วนน้ำมะพร้าวก็เป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมรองลงมา ส่วนบริเวณด้านหน้าถ้าหากเดินมาจากทางโบสถ์ดัตช์ก็จะเห็นร้าน Hardrock Cafe ซึ่งเป็นคาเฟ่สุดแนวที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศและจะมีพวกบรรดารถสามล้อรับจ้างจอดคอยให้บริการแก่นักท่องเที่ยวซึ่งสามล้อที่มะละกาเขาจะมีเอกลักษณ์ที่ดึงดูดให้คนต้องเหลียวมองนั่นก็คือการประดับตกแต่งให้เป็นลวดลายที่มีสีสันไม่ว่าจะเป็นลายการ์ตูน แต่หลายๆคันที่ผมเห็นเขาจะตกแต่งให้เป็นสีชมพูรวมทั้งการเปิดเพลงแดนซ์มันส์ๆที่คอยสร้างบรรยากาศความคึกคักให้แก่ถนนคนเดินแห่งเมืองมะละกาได้เป็นอย่างดี


ถนนยองเกอร์ ถนนคนเดินแห่งมะละกา

รถสามล้อรับจ้างจอดบริเวณด้านหน้า
ถูกตกแต่งเป็นลายการ์ตูนและโทนสีชมพูสดใส

บรรยากาศจะเริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเย็นไปจนถึงค่ำ

มีของขายมากมายทั้งของกิน ร้านขายเสื้อผ้า
และบริการเพนท์เล็บ

บรรยากาศในช่วงตอนหัวค่ำ

ร้านขายเกาลัด

ขนมจีบร้อนๆแถมสีสันก็น่าทานอย่างมาก

ใครที่อยากนั่งทานอาหารก็ไม่ต้องกังวล
เพราะมีร้านอาหารให้ได้นั่งทานอยู่หลายร้านเลยทีเดียว

ศิลปินเปิดหมวกเล่นดนตรีให้ได้ชมกัน
ผมไปยืนดูสักพักเห็นว่าคุณคนนี้ฝีมือดีอยู่พอตัวเลย

น้ำมะม่วงปั่นสดๆ เมนูยอดนิยมแห่งถนนยองเกอร์

น้ำมะพร้าว เมนูที่ได้รับความนิยมรองจากน้ำมะม่วง

ผมเดินมาหาที่นั่งพักแถวโบสถ์ดัตช์
ช่วงกลางคืนจะได้เห็นลานน้ำพุที่ประดับไฟสวยงาม

รูปปั้น กานบุนเหลียง บิดาแห่งวงการเพาะกายมาเลเซีย

ทางเข้าสู่ถนนยองเกอร์
ซึ่งถนนคนเดินแห่งนี้เริ่มเปิดครั้งแรกเมื่อปี 2010

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น