EP.25 พิพิธภัณฑ์สงครามกรุงโฮจิมินห์
สงครามมีแต่ความสูญเสีย สงครามสร้างความความเสียหายทั้งทางร่างกายและทางจิตใจไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผู้ชนะหรือฝ่ายผู้แพ้ ผมเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเรียนรู้ในด้านประวัติศาสตรซึ่งเหตุการณ์จากในอดีตนั้นเรื่องของสงครามเป็นสิ่งที่จะสามารถได้ยินและได้รับฟังมาบ่อยครั้ง ในอดีตจะมีสงครามใหญ่ๆก็อย่างเช่นสงครามโลกครั้งที่ 2 และครั้งที่ 2 และยังมีสงครามยิบย่อยอีกเป็นจำนวนมาก โดยสงครามในอดีตที่เป็นสมรภูมิที่น่าจะคุ้นเคยสำหรับชาวไทยเป็นอย่างดีก็คงหนีไม่พ้น สงครามเวียดนาม ซึ่งเป็นสงครามที่เกิดขึ้นในย่านอาเซียนโดยจะเป็นในยุคของสงครามเย็นระหว่างฝ่ายโลกเสรีประชาธิปไตยที่นำโดยสหรัฐอเมริกา กับ ฝ่ายคอมมิวนิสต์ซึ่งนำโดยสหภาพโซเวียต สงครามเย็นก็จะเปรียบเสมือนสงครามตัวแทนทั้งฝ่ายอเมริกาและโซเวียตจะไม่ปะทะหรือเข้ารบกันเอง แต่จะอยู่เบื้องหลังคอยสนับสนุนชาติตัวแทนของตนเองเสียมากกว่า
สงครามเวียดนามก็คือสงครามตัวแทนเกิดขึ้นในยุคสงครามเย็น โดยจะเป็นการรบระหว่างฝ่ายเวียดนามด้วยกันเอง โดยจะมีการแบ่งฝ่ายคือ ฝ่ายเวียดนามเหนือหรือเวียดกงจะมีสหภาพโซเวียตคอยสนับสนุน ขณะที่อีกฝ่ายเวียดนามใต้ซึ่งจะมีสหรัฐอเมริกาคอยสนับสนุน ซึ่งสุดท้ายผลการรบคือฝ่ายเวียดนามเหนือเป็นฝ่ายชนะและทำให้โลกรู้ว่าอเมริกาต้องมาพ่ายแพ้การต่อสู้แบบกองโจร โดยหลังจากสงครามก็สร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ประเทศเวียดนามส่งผลทั้งด้านร่างกายและทางด้านจิตใจซึ่งมันเป็นเรื่องที่สร้างบาดแผลในใจแก่ชาวเวียดนามหลายคน ทำให้ปัจจุบันคนเวียดนามจึงเลือกที่จะเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตและทำปัจจุบันและอนาคตให้ดีขึ้นซึ่งจะไปในทางสร้างสรรค์และร่วมมือกันในการพัฒนาชาติ
ขณะเรื่องราวของสงครามเวียดนามก็ได้ถูกบันทึกในความทรงจำแต่สิ่งที่จะสะท้อนออกมาได้ดีนั่นก็คือการสร้างพิพิํธภัณฑ์เกี่ยวกับสงครามขึ้นมาซึ่งในกรุงโฮจิมินห์ได้มีพิพิธภัณฑ์ที่สะท้อนเรื่องราวของยุคสงครามเวียดนามและได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกซึ่งจะเดินทางมาเข้าชมในแต่ละวันอย่างไม่ขาดสาย โดยในส่วนของพิพิธภัณฑ์ก็จะจัดแสดงเรื่องราวของสงครามเวียดนามอย่างละเอียดมีข้อมูลที่ครบถ้วน รวมถึงยังมีภาพเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นสมัยสงคราม ภาพความโหดร้ายที่ชาวเวียดนามต้องเจอทั้งการถูกทำร้ายร่างกายและการถูกฆ่า รวมถึงผลกระทบของสงครามที่ส่งผลมาถึงตัวพวกเขาในยุคปัจจุบันบางคนตาบอดมองไม่เห็น บางคนพิการแขนขา บางคนก็ได้รับบาดเจ็บจากระเบิดจนกลายเป็นผู้พิการซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นบาดแผลทางร่างกายและจิตใจแก่ชาวเวียดนามที่อยู่ในช่วงสงครามอย่างมาก
ผมใช้เวลาเดินชมพิพิธภัณฑ์สงครามอยู่ประมาณเกือบ 2 ชั่วโมงได้เห็นทั้งอาวุธที่ใช้กันจริงๆในช่วงสงครามเวียดนาม ยานพาหนะต่างๆทั้งเฮลิคอปเตอร์และรถถัง รวมถึงภาพเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในสมัยสงครามแต่ที่น่าหดหู่ที่สุดก็คงเป็นภาพของชาวเวียดนามโดยเฉพาะกลุ่มของฝ่ายเวียดนามเหนือที่หลายคนถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดบางคนถูกทรมานทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัส บางรายก็เป็นเด็กเล็กแต่ก็ถูกกระทำอย่างทารุณ ภาพเหตุการณ์พวกนี้ไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวที่รู้สึกหดหู่ใจแต่ผมลองสังเกตุนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาชมหลายๆคนเมื่อมองภาพพวกนี้ก็มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนักและน่าจะรู้สึกหดหู่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซึ่งจากเหตุการณ์ในอดีตที่ชาวเวียดนามต้องเผชิญกับภาพวะของสงครามมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ในยุคปัจจุบันชาวเวียดนามต่างก็มีความมุ่งมั่นและความขยันจากที่ผมได้สังเกตุมาพวกเขาเลือกที่จะเรียนรู้เรื่องราวในอดีตและพยายามไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกและมุ่งมั่นเดินหน้าพัฒนาประเทศชาติสู่ความเจริญไม่ว่าจะเป็นในปัจจุบันหรืออนาคต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น