EP.21 ทะเลทรายแห่งเวียดนาม
ถ้าหากพูดถึงคำว่า ทะเลทราย ผมเชื่อว่าหลายๆท่านน่าจะนึกไปถึงพื้นที่อันแห้งแล้งดูเวิ้งว้างเต็มไปด้วยผืนทะเลทรายท่ามกลางแสงแดดของดวงอาทิตย์ที่ร้อนระอุโดยจะนึกไปถึงว่า ดินแดนของทะเลทราย จะต้องอยู่ในย่านตะวันออกกลางหรือไม่ก็ทางทวีปแอฟริกาตอนเหนือซึ่งก็ถือว่าเป็นความคิดที่ถูกเพราะในย่านตะวันออกกลางหรือแอฟริกาตอนเหนืออย่าง อียิปต์ แอลจีเรียหรือโมร็อคโกก็มีพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นทะเลทราย แต่ถ้าหากบอกว่าทะเลทรายที่อยู่ใกล้ๆบ้านเราหลายๆคนก็อาจจะคาดไม่ถึงหรือนึกไม่ออกว่ามันอยู่ที่ใดกันแน่ โดยทะเลทรายที่อยู่ใกล้ๆกับเมืองไทยนั้นต้องบอกเลยว่ามีอยู่จริงและอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนของไทยอย่าง เวียดนาม โดยทะเลทรายจะตั้งอยู่ในเมืองฟานเที้ยตซึ่งอยู่ห่างจากกรุงโฮจิมินห์ไปประมาณ 200 กิโลเมตร แต่ในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเรียกกันว่า มุยเน่ ซึ่งจริงๆแล้วไม่ใช่ชื่อเมืองแต่มาจากชื่อของผืนแผ่นดินที่ยื่นลงไปในทะเล แต่ไปๆมาๆชื่อมุยเน่กลายเป็นชื่อเรียกของตัวเมืองซะอย่างนั้น ทำให้ถูกเรียกกันมาอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน
สำหรับทะเลทรายที่มุยเน่จะมีอยู่ 2 ที่นั่นก็คือ ทะเลทรายแดง กับทะเลทรายขาว สำหรับการไปเที่ยวชมทะเลทรายก็สามารถเช่ารถมอเตอร์ไซค์ขี่ไปเที่ยวเองหรือจะเป็นวิธียอดนิยมอย่างการนั่งรถจิ๊บเป็นกลุ่มโดยจะเป็นการเที่ยวแบบครึ่งวัน จริงๆแล้วตอนที่ผมไปมุยเน่ผมเช่ามอเตอร์ไซค์จากที่พักกะจะขี่ไปเที่ยวด้วยตนเอง แต่กลับเกิดอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์ล้มจนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจริงๆผมจะยกเลิกแผนการเที่ยวทั้งหมดแล้วแต่คิดว่าไหนๆก็มาแล้วก็ตัดสินใจซื้อทัวร์โดยการนั่งรถจิ๊บไปแบบครึ่งวัน สำหรับทั้ง 2 ทะเลทรายค่อนข้างมีความแตกต่างทะเลทรายแดงจะมีเอกลักษณ์คือเม็ดทรายที่เป็นสีแดงโดยเกิดจากสนิมเหล็ก แต่โดยส่วนตัวแล้วผมมองว่าไม่ค่อยสวยเท่าไหร่และดูเป็นทรายแบบหยาบๆ ส่วนทะเลทรายขาวนั้นอันนี้ถือว่าสวยงามกกว่าและไฮไลท์เด่นก็คือเวลามาชมในตอนพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าหรือพระอาทิตย์ตกดินจะได้เห็นแสงจากดวงอาทิตย์ตัดสะท้อนกับผืนทะเลทรายซึ่งมีความสวยงามอย่างมากหลายๆคนที่ได้เห็นก็มักไม่พลาดที่จะหยิบทั้งมือถือและกล้องถ่ายรูปมาถ่ายภาพบรรยากาศของแสงจากดวงอาทิตย์ที่ตัดสะท้อนกับผืนทะเลทราย
ส่วนกิจกรรมอื่นๆที่มีในขณะที่เที่ยวชมทะเลทรายทั้ง 2 แห่งก็คือ การนั่งรถเอทีวีตะลุยผืนทรายแต่เท่าที่ผมสังเกตุราคามาแล้วถือว่าค่อนข้างแพงเอาเรื่องกับการได้ลองขี่หรือนั่งรถเอทีวีซึ่งไม่ถึง 30 นาทีด้วยซ้ำและอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตคือการเล่นสไลเดอร์โดยจะมีพวกแม่ค้านำสไลเดอร์มาขายให้แก่นักท่องเที่ยวอันนี้ราคาไม่แพงมากเล่นได้หลายรอบ โดยความสนุกจะอยู่ที่การนั่งแผ่นรองสไลเดอร์จากที่สูงและปล่อยตัวลงมายังด้านล่าง แต่ทั้ง 2 กิจกรรมผมไม่ได้ลองเพราะอย่างที่ทราบกันคือได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะมาเที่ยวทะเลทราย 1 วัน จึงได้แต่มองคนอื่นเล่นกันไป และสำหรับใครที่ซื้อทัวร์รถจิ๊บมาเที่ยวทะเลทรายที่มุยเน่แบบผมนอกจากจะได้มาชมทะเลทรายทั้ง 2 แห่งแล้วยังได้ไปเที่ยวหมู่บ้านชาวประมงเพราะที่มุยเน่นั้นชาวบ้านส่วนใหญ่จะประกอบอาชีพชาวประมงและอีก 1 สถานที่ที่ได้ไปคือ แฟรี่สตรีมหรือลำธารสายเล็กๆที่มีชั้นหินและชั้นทรายสวยงามโดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินลุยผ่านลำธารแห่งนี้ได้ แต่สถานที่ทั้งหมดผมก็ได้เพียงแต่ยืนมองหรือนั่งดูเท่านั้น ช่างน่าเสียดายจริงๆที่มาบาดเจ็บเสียก่อน ยังไงเสียโอกาสก็ยังมีเสมอผมก็หวังว่าหากเปิดประเทศอีกครั้งก็จะกลับไปเที่ยวชมความงามของทะเลทรายที่มุยเน่อีกรอบให้จงได้
ทะเลทรายแห่งเวียดนาม
ทะเลทรายขาว วันที่ผมไปมีนักท่องเที่ยว
มาเที่ยวกันพอสมควร
เม็ดทรายที่ทะเลทรายแดง
ไม่ค่อยสวยเท่ากับที่ทะเลทรายขาว