วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568

 

EP.203 สถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์


ช่วง 5-6 ปีหลังที่ผ่านมา ผมมีโอกาสได้นั่งรถไฟไทยและรถไฟของต่างแดนค่อนข้างบ่อย สำหรับรถไฟไทยแล้วผมมีโอกาสได้นั่งรถไฟชานเมืองอยู่บ่อยครั้งรองลงมาก็จะเป็นพวกรถไฟทางไกลสายใต้ สำหรับรถไฟชานเมืองก็จะเป็นการเดินทางในระยะทางที่ไม่ไกลมากนักและพื้นที่ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในโซนของเขตภาคกลางและภาคตะวันออกไม่ว่าจะเป็นปทุมธานี นครปฐม พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี ฉะเชิงเทรา

นอกจากนั้นผมยังมักนั่งรถไฟชานเมืองไปยังสถานีต่างๆซึ่งผมมักจะไปถ่ายรูปและถ่ายคลิปวีดีโอของสถานีรถไฟหลากหลายแห่ง โดยหนึ่งในสถานีรถไฟที่ผมได้ไปเมื่อไม่นานมานี้ก็คือ สถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่เขตทวีวัฒนาของกรุงเทพมหานครและยังเป็นหนึ่งในเส้นทางของรถไฟสายใต้และรถไฟชานเมือง

สำหรับสถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ ปัจจุบันมีสถานะเป็นสถานีรถไฟชั้น 3 โดยตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟธนบุรี 14 กิโลเมตรซึ่งแม้ว่าจะเป็นเพียงสถานีเล็กๆแต่บรรยากาศก็ดูกว้างขวางซึ่งบริเวณด้านหลังจะมีชุมชนหลังสถานีรถไฟซึ่งมีบ้านเรือนของผู้คนอาศัยกันอยู่ซึ่งจะมีทางเดินเพื่อไปยังถนนสายหลักได้ในระยะทางราวๆ 400 เมตร ขณะที่อีกฝั่งนึงของสถานีก็จะมีเครื่องเล่นและลานแอโรบิคให้ผู้คนได้มาออกกำลังกาย

ส่วนใครที่มารอขึ้นรถไฟที่นี่ก็สามารถซื้อตั๋วแบบรายวันและแบบล่วงหน้าได้ โดยในแต่ละวันจะมีรถไฟขบวนธรรมดาและขบวนชานเมืองมาเข้าจอดรับส่งผู้โดยสารซึ่งจะมีรถไฟที่วิ่งไปทั้งที่ศาลายา นครชัยศรี นครปฐม โพรงมะเดื่อ บ้านโป่ง ประจวบคีรีขันธ์ หลังสวน กาญจนบุรี รวมไปถึงสถานีน้ำตกและรถไฟที่วิ่งกลับไปยังสถานีธนบุรีซึ่งจะจอดที่ป้ายหยุดรถพุทธมณฑลสาย 2 ป้ายหยุดรถบ้านฉิมพลี สถานีีชุมทางตลิ่งชัน ป้ายหยุดรถไฟบางระมาด ป้ายหยุดรถจรัญสนิทวงศ์ ก่อนจะไปสุดปลายทางที่สถานีธนบุรีในเขตบางกอกน้อย


สถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ ตั้งอยู่ในเขตทวีวัฒนา
ซึ่งจะเป็นพื้นที่ติดต่อกับจังหวัดนครปฐม

จุดจำหน่ายตั๋วโดยสารและป้ายของตารางเดินรถ

ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟศาลายากับป้ายหยุดรถบ้านฉิมพลี

ชานชาลาที่สถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์ซึ่งในแต่ละวัน
จะมีรถไฟวิ่งไปทั้งที่สถานีน้ำตก สถานีหลังสวน สถานีนครปฐม

จุดที่นั่งพักของผู้โดยสารที่มารอขึ้นรถไฟ

ด้านหลังสถานีจะมีบ้านเรือนของผู้คนซึ่งถูกเรียกว่า
ชุมชนหลังสถานีรถไฟศาลาธรรมสพน์


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
18 มิถุนายน 2568

วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2568

 

EP.202 นั่งรถบัสจากโฮจิมินห์ - พนมเปญ


ช่วง 1-2 ปีหลังของการเดินทางท่องเที่ยว ผมแทบจะไม่ได้ใช้บริการเครื่องบินเลยซึ่งผมเน้นความประหยัดในการเดินทางจึงทำให้มักเลือกเดินทางไปกลับด้วยรถบัสโดยสารระหว่างประเทศ โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาผมได้เดินทางกลับจากเวียดนามเพื่อจะกลับมาที่บ้านในเมืองไทยแผ่นดินเกิด แต่การเดินทางด้วยรถบัสจากเวียดนามไม่มีวิ่งตรงมาถึงที่เมืองไทยซึ่งรถบัสจากเวียดนามจะมีวิ่งมาแค่ประเทศกัมพูชาเท่านั้น

ผมเลือกเดินทางจากนครโฮจิมินห์ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเวียดนามและมาลงที่จุดหมายปลายทางที่กรุงพนมเปญของประเทศกัมพูชา โดยรถบัสที่วิ่งในเส้นทางนี้ก็มีให้บริการอยู่หลายบริษัทซึ่งในเวลานั้นผมมีเงินไม่มากเท่าไหร่ ทำให้ตัดสินใจเลือกรถบัสของบริษัท Khai Nam (ไคนาม) ซึ่งจากที่ผมเช็คราคามาแล้วก็มีราคาค่าโดยสารถูกที่สุด โดยค่าโดยสารก็อยู่ที่ประมาณ 550,000 ดงหรือตีเป็นเงินไทยก็อยู่ที่ประมาณ 700 กว่าบาท

รถบัสออกเดินทางจากนครโฮจิมินห์ในช่วง 9 โมงเช้าและใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 6-7 ชั่วโมง แต่เมื่อเดินทางจริงๆแล้วก็จะใช้เวลานานกว่าที่กำหนดไว้ครับ เพราะจะมีทั้งตอนที่ผู้โดยสารต้องเปลี่ยนมานั่งรถบัสอีกคัน รวมถึงตอนที่ลงจากรถบัสเพื่อผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองจากด่าน ตม.ของทั้ง 2 ประเทศและยังมีช่วงที่รถบัสแวะจอดให้ผู้โดยสารได้ทานข้าวกลางวันซึ่งราคาก็รวมอยู่ในตั๋วโดยสารอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มโดยกว่าที่รถบัสจะเดินทางไปถึงกรุงพนมเปญก็เป็นช่วงเกือบ 6 โมงเย็นแล้ว


ผมเดินทางจากนครโฮจิมินห์ในประเทศเวียดนามมาที่
กรุงพนมเปญของประเทศกัมพูชาด้วยรถบัสโดยสาร

ผมใช้บริการรถบัสของบริษัทไคนามซึ่งราคาค่าโดยสาร
ค่อนข้างถูกโดยจะอยู่ประมาณ 700 กว่าบาท

บรรยากาศบนรถบัสซึ่งเป็นรถนอนสไตล์แบบเวียดนาม

หน้าด่านมอคไบของทางเวียดนาม 
ส่วนด่านของกัมพูชาจะชื่อว่า ด่านบาเว็ท

รถบัสเดินทางเข้าสู่กัมพูชาประมาณช่วงบ่ายๆ

ผมเดินทางมาถึงกรุงพนมเปญก็เกือบ 6 โมงเย็น
โดยใช้เวลาเดินทางราวๆ 9 ชั่วโมง


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
12 มิถุนายน 2568

วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2568

 

EP.201 KFC อินโดนีเซีย


ผมไปเที่ยวอินโดนีเซียครั้งล่าสุดก็เมื่อ 2 ปีที่แล้วโดยผมไปในช่วงเดือนมีนาคมของปี 2023 แต่การไปเที่ยวในครั้งนั้นดันเป็นช่วงถือศีลอดของชาวมุสลิมกันพอดีซึ่งอินโดนีเซียก็เป็นประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามมากที่สุดในโลก ทำให้ในช่วงที่ผมท่องเที่ยวในอินโดนีเซียก็ทำให้เกิดความยากลำบากในการหาของกินซึ่งส่วนใหญ่ร้านค้าร้านอาหารต่างๆจะเปิดหลังช่วงที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว

แต่เนื่องจากว่าผมไม่ใชมุสลิมดังนั้นจึงไม่ต้องถือศีลอดเหมือนคนอื่นๆและเมื่อเกิดอาการท้องหิว สิ่งที่ทำให้ผมต้องรีบไปทำก็คือการหาอาหารทานเพื่อให้เกิดความอิ่มท้อง แต่อย่างที่ผมบอกไปครับว่าช่วงถือศีลอด การจะหาของทานในช่วงกลางวันนั้นค่อนข้างหายากแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีร้านอาหารบางแห่งที่เปิดขายตามปกติซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ร้าน KFC ซึ่งเป็นร้านไก่ทอดยอดฮิตของผู้คนทั่วโลก

แม้ว่า KFC จะเปิดขายกันตามปกติแต่ก็มีลูกค้ามาซื้อกันไม่มากนักซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ไม่ใช่มุสลิม โดยร้าน KFC ที่ผมไปนั่งทานอยู่ตั้งอยู่แถวถนนมาริโอโบโร่ซึ่งอยู่ในเมืองยอร์กยาการ์ตา ส่วนเมนูก็มีหลากหลายไม่ต่างจากร้าน KFC ในเมืองไทยครับซึ่งเมนูที่ผมได้สั่งไปก็คือ เมนูไก่ทอดกับเบอร์เกอร์้อมด้วยเฟรนซ์ฟรายกับโค้ก ส่วนราคาผมจำไม่ได้แล้วแต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากในเมืองไทยมากนัก แต่สิ่งที่ผมสามารถสัมผัสได้ก็คือเรื่องของรสชาติซึ่ง KFC ของที่อินโดนีเซียค่อนข้างจะออกเค็มเฉกเช่นเดียวกับซอสที่รสชาติไม่กลมกล่อมเท่าไหร่นัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลซึ่งสำหรับตัวผมแล้ว KFC ในเมืองไทยก็ยังคงครองใจเสมอมา


ร้าน KFC ในเมืองยอร์กยาการ์ตา เปิดขายกันตามปกติ
แม้เป็นช่วงเดือนรอมฎอนหรือการถือศีลอดของชาวมุสลิม

ลูกค้าเข้ามาสั่งเมนูซึ่งมีลูกค้าไม่มากเท่าไหร่นัก

บรรยากาศภายในร้านซึ่งในช่วงถือศีลอด ลูกค้าที่เป็นมุสลิม
ก็อาจจะซื้อกลับบ้านไม่ก็มาซื้อในช่วงตอนที่พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว

ผมสั่งไก่ทอด เบอร์เกอร์ เฟรนซ์ฟรายรวมไปถึงโค้ก
แต่รสชาติ KFC ของทางอินโดค่อนข้างจะเค็มไปหน่อย


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
7 มิถุนายน 2568