EP.89 อนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์
เรื่องราวของประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนและเปราะบางพอสมควรครับ เพราะเมื่อมีการเอ่ยถึงประวัติศาสตร์ที่แต่ละชาติเคยมีร่วมกันมาสุดท้ายแล้วมักจะตามมาด้วยการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดซึ่งในยุคปัจจุบันแม้ว่าจะเปลี่ยนจากสงครามมาเป็นความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ แต่เรื่องราวประวัติศาสตร์ในสมัยอดีตก็เป็นสิ่งที่ยากที่จะลืมเลือนได้ลง โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านที่หลายๆชาติที่มักจะมีประวัติศาสตร์เกี่ยวข้องร่วมกันมา
ตัวอย่างของประเทศเพื่อนบ้านที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันมาก็ไม่ต้องมองไปไหนไกลครับ เพราะเรื่องราวของไทยกับลาวก็มีความเกี่ยวข้องทางประวัติศาสตร์กันพอสมควร โดยในสมัยอดีตไทยกับลาวมีประวัติศาสตร์ร่วมกันทั้งในด้านการสู้รบหรือตอนที่ลาวเคยเป็นเมืองขึ้นของไทยซึ่งในประวัติศาสตร์ของไทยก็ได้มีการบันทึกไว้ว่าลาวในชื่อเดิมคือ อาณาจักรล้านช้าง เคยต้องเป็นเมืองขึ้นของสยาม (ไทย) ในช่วงยุคต้นของสมัยรัตนโกสินทร์ โดยผู้นำของอาณาจักรล้านช้างในยุคนั้นก็มีนามว่า เจ้าอนุวงศ์
ตามประวัติศาสตร์ของไทยบันทึกไว้ว่าช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 อาณาจักรล้านช้างภายใต้การนำของเจ้าอนุวงศ์ได้ทำการกบฎขึ้นแต่สุดท้ายกระทำการไม่สำเร็จและถูกจับตัวได้จนกระทั่งเสียชีวิตอยู่ในราชอาณาจักรสยาม แต่หากไปดูบันทึกทางประวัติศาสตร์ของทางฝั่งลาวจะบอกไปอีกแบบซึ่งจะมองว่าเจ้าอนุวงศ์คือวีรบุรุษของชาติที่ได้รวบรวมกำลังพลเพื่อปลดแอกจากการเป็นเมืองขึ้นของสยามประเทศ
ซึ่งจากข้อมูลบางส่วนที่ผมได้นำมาให้อ่านก็จะเห็นได้ชัดครับว่าประวัติศาสตร์ของไทยและลาวในเรื่องของเจ้าอนุวงศ์จะแตกต่างกันแบบสุดขั้ว ไทยมองว่าเจ้าอนุวงศ์คือกบฎ แต่ลาวมองว่าเจ้าอนุวงศ์คือวีรบุรุษของชาติซึ่งสิ่งที่ยืนยันได้เป็นอย่างดีก็คือประเทศลาวได้มีการสร้างรูปปั้นของเจ้าอนุวงศ์ไว้ในกรุงเวียงจันทน์ซึ่งจะตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะริมฝั่งแม่น้ำโขง
สำหรับบริเวณอนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์ในปัจจุบันได้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กและสถานที่ท่องเที่ยวของกรุงเวียงจันทน์ซึ่งจะมีผู้คนแวะเวียนมากราบสักการะรูปปั้นของเจ้าอนุวงศ์กันแบบไม่ขาดสาย โดยรูปปั้นของเจ้าอนุวงศ์จะมีลักษณะยื่นมือขวาไปยังอีกฝั่งนึงของแม่น้ำโขงซึ่งตรงบริเวณนั้นก็คือ พื้นที่อำเภอศรีเชียงใหม่ของจังหวัดหนองคายซึ่งนัยยะของรูปปั้นก็คงจะสื่อถึงการต้องการฟื้นความสัมพันธ์กับไทยและให้ลืมเรื่องราวความบาดหมางที่เคยเกิดขึ้นในอดีต
ส่วนบรรยากาศรอบๆอนุสาวรีย์เจ้าอนุวงศ์ผมว่าค่อนข้างคึกคักครับทั้งผู้คนที่มากราบสักการะรูปปั้นเจ้าอนุวงศ์และในช่วงเย็นก็ยิ่งเพิ่มความคึกคักไปอีกจากบรรดาผู้คนที่มานั่งชมวิวริมฝั่งโขง กลุ่มผู้คนที่มาวิ่งออกกำลังกายและกลุ่มผู้คนที่จะมาเดินซื้อของตรงบริเวณตลาดกลางคืน ซึ่งความบาดหมางและสงครามในอดีตได้ยุติลงและในปัจจุบันก็กลายมาเป็นความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ ส่วนประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่เราควรเรียนรู้และไม่นำความบาดหมางในอดีตมาเป็นประเด็นให้ขุ่นข้องหมองใจกันอีกต่อไป
ตั้งอยู่บริเวณสวนสาธารณะริมฝั่งแม่น้ำโขงในกรุงเวียงจันทน์
ในแต่ละวันจะมีผู้คนมาสักการะกันอยู่แทบตลอด
โดยเจ้าอนุวงศ์ถือว่าเป็นวีรบุรุษของชาติลาวเลยทีเดียว
รูปปั้นม้าและช้างจำนวนมากซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้คนนำมาแก้บน
จะมีผู้คนมาออกกำลังกายและนั่งพักผ่อนเป็นจำนวนมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น