EP.45 วัดพนม
สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงพนมเปญมีอยู่หลายแห่งครับ เพราะพนมเปญคือเมืองหลวงของกัมพูชา โดยเมืองหลวงของแต่ละประเทศก็ย่อมมีจุดขายและสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆมากมาย ทั้งนี้ก็เพราะบรรดาพวกเมืองหลวงมักจะเป็นจุดหมายปลายทางแห่งแรกที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจะมาพักหรือเที่ยวชมอย่างในเมืองไทยเมื่อนักท่องเที่ยวมาถึงสนามบินส่วนมากก็มักจะแวะเข้ากรุงเทพฯก่อน หลังจากนั้นค่อยตระเวนเที่ยวไปตามเมืองอื่นๆซึ่งก็ไม่ต่างจากที่กัมพูชาครับ นักท่องเที่ยวหลายคนเริ่มปักหลักท่องเที่ยวในกรุงพนมเปญก่อน โดยสถานที่ท่องเที่ยวในกรุงพนมเปญที่ดังๆและชาวต่างชาติจะรู้จักกันดีก็คือ ทุ่งสังหาร ที่บรรดาฝ่ายเขมรแดงเคยใช้เป็นสถานที่ทรมานและสังหารผู้บริสุทธิ์ รวมถึงคุกตวลสเลงที่พวกเขมรแดงจับผู้บริสุทธิ์มาขังคุกก่อนจะทำการทรมานและสังหารอย่างเหี้ยมโหดและอีกสถานที่นึงที่นักท่องเที่ยวต่างชาติพอจะรู้จักกันดีก็คือ วัดพนม ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่และมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างยาวนาน
สำหรับการท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาของผมในครั้งล่าสุด ผมเน้นการเดินเที่ยวเป็นหลักโดยจะเน้นเที่ยวในสถานที่ที่ไม่ไกลจากที่พักมากนัก โดยวัดพนมตั้งอยู่บริเวณใจกลางกรุงพนมเปญและห่างจากที่พักของผมราวๆ 1 กิโลกว่าซึ่งสามารถเดินได้สบายๆซึ่งการมาเที่ยววัดพนมครั้งล่าสุดไม่ใช่การมาเที่ยวครั้งแรก ผมเคยมาแล้วครั้งนึงแต่คราวก่อนไม่ได้ถ่ายคลิปบรรยากาศ ทำให้การเที่ยวครั้งล่าสุดผมได้เก็บภาพและถ่ายคลิปบรรยากาศต่างๆซึ่งก็ไม่ได้แตกต่างจากเมื่อ 5 ปีที่แล้วที่ผมเคยมา บรรยากาศของวัดพนมยังคงร่มรื่นด้วยต้นไม้หลากหลายพันธุ์และยังคงมีการเก็บเงินค่าเข้าชมสำหรับชาวต่างชาติอยู่ที่ 1 ดอลลาร์ (35 บาท) อยู่เช่นเดิม แต่ที่อาจจะแปลกตาเพิ่มเข้ามาคงหนีไม่พ้นเหล่าบรรดานกเงือกที่อาศัยอยู่กันอย่างมากมายหลายตัว แถมแต่ละตัวก็ดูเชื่องพอสมควร ทำให้บรรดานักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันได้แบบเต็มๆโดยเจ้านกเงือกพวกนี้ก็ไม่มีท่าทีเขินอายเสียด้วย
ส่วนบรรยากาศส่วนอื่นๆที่น่าสนใจก็จะมีทั้งบันไดพญานาคซึ่งเป็นจุดทางเดินขึ้นที่จะไปชมในส่วนของเจดีย์และพระวิหาร รวมถึงศาลจีน ศาลยายเปญและพระวิหารซึ่งด้านในประดิษฐานพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวพนมเปญเป็นอย่างมาก รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระวิหารที่บอกเล่าเรื่องราวของพุทธประวัติและเรื่องราวของรามเกียรติ์ ขณะที่ประวัติของวัดพนมตามตำนานที่ผมได้อ่านมาก็ทราบว่า วัดพนมถูกสร้างขึ้นจากแรงศรัทธาของยายเปญซึ่งได้พบกับขอนไม้ลอยมาตามน้ำและเห็นพระพุทธรูป 5 องค์ประดิษฐานอยู่ในขอนไม้ จากนั้นยายเปญจึงอันเชิญขึ้นมาบนฝั่งก่อนที่จะเนินดินสูง 27 เมตรเพื่อสร้างวัดไว้สำหรับประดิษฐานพระพุทธรูปทั้ง 5 องค์ ซึ่งที่มาของวัดพนมและกรุงพนมเปญในปัจจุบันก็มาจากชื่อของยายเปญนั่นเอง โดยในวันที่ผมไปเที่ยววัดพนมก็พบว่ามีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันพอสมควรทั้งชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติ โดยวัดพนมจะเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8 โมงเช้าไปถึงประมาณ 5 โมงเย็น การเข้าชมก็จะคล้ายๆกับการเข้าชมสถานที่สำคัญทางศาสนานั่นก็คือ การรักษามารยาทเข้าชมด้วยความสุภาพและแต่งกายให้เหมาะสมและถูกกาละเทศะ
วัดพนม วัดเก่าแก่ของกรุงพนมเปญ
โดยเป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน
วัดพนมเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 8.00 น. - 17.00 น.
คนกัมพูชาเข้าฟรี แต่นักท่องเที่ยวต่างชาติแบบพวกเรา
เสียกันคนละ 1 ดอลลาร์ (35 บาท)
บรรยากาศภายในวัดพนมค่อนข้างร่มรื่นมาก
นั่นก็เพราะว่ามีการปลูกต้นไม้ไปตลอดทาง
ซึ่งผมเห็นชาวกัมพูชามักจะมานั่งเล่นพักผ่อนจับกลุ่มพูดคุยกัน
พอเดินขึ้นไปบนบันไดพญานาคก็จะพบกับพระวิหาร
ซึ่งมักจะเป็นจุดที่หลายคนมักมาถ่ายรูป
ผมลองถ่ายคลิปวีดีโอภายในพระวิหาร
แต่ถูกเจ้าหน้าที่เตือนไม่ให้ถ่ายวีดีโอ แต่สามารถถ่ายรูปได้
พระพุทธรูปสัมฤทธิ์ที่ตั้งประดิษฐานอยู่ภายในพระวิหาร
ของวัดพนม
ภายในพระวิหารยังมีภาพจิตรกรรมฝานังให้ได้ชมกัน
ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของพุทธประวัติและรามเกียรติ์
ศาลยายเปญ ซึ่งตามตำนานเชื่อกันว่าเป็นผู้สร้างวัดพนมขึ้นมา
ปัจจุบันมีผู้คนมากราบสักการะกันอย่างไม่ขาดสาย
ร้านจำหน่ายของที่ระลึก สินค้าส่วนใหญ่ก็เป็นพวกโปสการ์ด
ผมไปวัดพนมครั้งล่าสุด สิ่งที่ดูสะดุดตามากก็คือ นกเงือก
ซึ่งมีอยู่หลายตัวและแต่ละตัวก็ดูเชื่องมาก
ไปถ่ายรูปใกล้ๆก็ไม่มีหลบหรือบินหนี
คลิปวีดีโอ
เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
5 กรกฏาคม 2565
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น