วันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

 

EP.54 เดินจากสถานีรถไฟ
สุไหงโกลก - ด่านพรมแดน
สุไหงโกลก


สถานีรถไฟสุไหงโกลก เป็นสถานีที่อยู่ใต้สุดของประเทศไทยโดยตั้งอยู่ในอำเภอสุไหงโกลกของจังหวัดนราธิวาส ปัจจุบันการเดินทางด้วยการนั่งรถไฟจากกรุงเทพไปยังสุไหงโกลกจะมีรถไฟให้บริการอยู่แค่ 2 ขบวนซึ่งก็คือขบวนรถเร็ว 171 และขบวนรถด่วนพิเศษ 37 โดยตัวผมเองมีประสบการณ์การนั่งรถไฟทางไกลแบบนี้อยู่บ้าง สำหรับครั้งล่าสุดผมนั่งรถไฟจากสถานีรถไฟชุมทางบางซื่อไปลงที่สถานีรถไฟสุไหงโกลก โดยเลือกเป็นขบวน 171 ซึ่งการเดินทางที่สะดวกสบายที่สุดก็คือต้องเลือกเดินทางด้วยตู้นอนและต้องเป็นเตียงล่างถึงจะเป็นการเดินทางรถไฟทางไกลที่ให้ความสะดวกสบายมากที่สุด

สำหรับรถไฟขบวน 171 ถ้าเริ่มนั่งจากกรุงเทพจะใช้เวลาเดินทางมาถึงสุไหงโกลกตามกำหนดคือ 22 ชั่วโมงแต่ส่วนมากรถไฟจะล่าช้าทำให้จะใช้เวลาล่วงเลยไปกว่า 25 ชั่วโมง ผมเดินทางครั้งล่าสุดรถไฟก็ล่าช้าเช่นกันโดยมาถึงสถานีสุไหงโกลกประมาณช่วงเกือบบ่ายโมง โดยแผนเดินทางของผมคือข้ามไปยังฝั่งมาเลเซียซึ่งสถานีรถไฟจะตั้งอยู่ห่างจากด่านพรมแดนสุไหงโกลกประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งผมมักชอบเดินเท้าถ้าหากระยะทางไม่ไกลมากแม้ว่าจะมีมอเตอร์ไซค์รับจ้างตรงหน้าสถานีก็ตาม แต่ด้วยระยะทางแค่ 1 กิโลเมตรนั่นจึงทำให้ผมตัดสินใจที่จะเดินเท้าไป

การเดินเท้าจากสถานีรถไฟสุไหงโกลกถึงด่านพรมแดนสุไหงโกลกไม่ได้มีความซับซ้อนอะไรเลยครับ แค่เดินตรงไปเรื่อยๆในระยะ 1 กิโลเมตร โดยระหว่างที่เดินไปก็จะเจอบรรยากาศรอบข้างที่น่าสนใจทั้งสวนสาธารณะ ภาพสตรีทอาร์ตบนกำแพงแบบสวยๆ ลานน้ำพุเล็กๆ จุดจอดรถสองแถวที่มีเส้นทางไปยังอำเภอต่างๆในจังหวัดนราธิวาส รวมไปถึงสถานที่สำคัญอย่างโรงแรมเกนติ้งซึ่งเป็นโรงแรมดังประจำอำเภอและอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟ ผมเดินไปถ่ายรูปบรรยากาศไป ในที่สุดก็ไปถึงด่านพรมแดนสุไหงโกลกโดยใช้เวลา 15 นาทีซึ่งทางเดินก็ไม่ได้ซับซ้อนแต่ที่ลำบากมากกว่าการเดินก็คือแดดร้อนๆที่แผดเผาร่างกายอย่างเต็มที่นั่นเอง


ผมนั่งรถไฟจากกรุงเทพมาลงที่สถานีสุไหงโกลก
ก็เพื่อที่จะเดินข้ามไปยังฝั่งมาเลเซีย
แต่ด่านพรมแดนจะตั้งอยู่ห่างจากสถานีรถไฟ 1 กิโลเมตร
ผมจึงเลือกใช้วิธีการเดิน เพราะระยะทางไม่ไกลนัก

แผนที่เส้นทางและข้อมูลของที่ตั้งของสถานที่ต่างๆ
ที่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟสุไหงโกลกมากนัก

เดินมาไม่ไกลก็จะเจอกับจุดจอดรถสองแถว
ซึ่งจะวิ่งจากสุไหงโกลกไปยังทางอำเภอตากใบ

โรงแรมเกนติ้ง โรงแรมดังประจำอำเภอสุไหงโกลก
นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและคนมาเลเซียนิยมมาพักกันที่นี่

เดินมาถึงครึ่งทางก็เจอกับจุดของสามแยกไฟแดง

ผ่านสามแยกไฟแดงก็จะเจอกับภาพสตรีทอาร์ต
โดยบริเวณนี้ก็จะมีลานน้ำพุเล็กๆด้วยเช่นกัน

ผมเดินบ้างหยุดบ้างแวะถ่ายรูปบ้าง สุดท้ายมาถึง
ด่านพรมแดนสุไหงโกลก โดยใช้เวลา 15 นาที


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
31 กรกฎาคม 2565

วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

 

EP.53 ห้าง The Heritage Walk


ห้างสรรพสินค้าหรือศูนย์การค้า คือ สถานที่รวบรวมสินค้าหลากหลายชนิดซึ่งตัวอาคารสถานที่จะอยู่ในรูปแบบที่ดูทันสมัยซึ่งให้อารมณ์ความแตกต่างจากตลาดทั่วๆไปอย่างชัดเจน สำหรับเมืองไทยของเรามีห้างสรรพสินค้ามากมายครับ เดี๋ยวนี้ขยายไปตามต่างจังหวัดและมีห้างสรรพสินค้ากันครบทุกจังหวัด หลายคนไปเดินห้างก็เพื่อจับจ่ายสินค้า บ้างก็เดินเที่ยวเล่น บ้านก็ไปเดินตากแอร์หลบอากาศร้อนจากภายนอก ส่วนตัวผมไม่ค่อยถูกจริตกับพวกห้างสรรพสินค้าเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ไม่ได้ไปเดินบ่อยนัก แต่ถ้าไปเดินเมื่อไหร่ก็มีซื้อของที่จำเป็นหลักๆก็จะเป็นสินค้าที่เอาไว้สำหรับการเดินทาง

สำหรับห้างสรรพสินค้านั้นมีอยู่ทั่วโลกครับ ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปเที่ยวที่ไหนก็จะเจอกับห้างสรรพสินค้าเสมอไม่เว้นแม้แต่พวกเมืองเล็กๆที่คนไม่ค่อยรู้จักก็ยังมีห้างสรรพสินค้าให้คนได้ไปเดินกัน สำหรับในเมืองเสียมเรียบที่กัมพูชาถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ ดังนั้นห้างสรรพสินค้าจึงเป็นสิ่งที่สามารถพบเห็นได้เยอะในเมืองเสียมเรียบ โดยหนึ่งในห้างที่ทั้งคนเขมรและนักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักกันพอสมควรก็คือ ห้าง The Heritage Walk ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยวของเมืองเสียมเรียบมากนัก โดยถูกจัดให้เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีดีไซน์การออกแบบที่ดูล้ำสมัยและน่ามาเดินเที่ยวไม่น้อยเลย

ช่วงวันท้ายๆของการอยู่ในเสียมเรียบ ผมเลือกที่จะมาเดินดูห้าง The Heritage Walk ซึ่งผมเที่ยวเสียมเรียบหลายครั้งก็ไม่เคยได้มาสักที พอเมื่อเข้าไปก้เห็นการดีไซน์ของตัวอาคารที่ดูโฉบเฉี่ยวโดยมีแนวคิดในการออกแบบให้อาคารเป็นแบบเปิดโล่งและมีลักษณะแบบกึ่งกลางแจ้งทำให้ดูไม่อึดอัด โดยผมไปเดินในวันธรรมดาทำให้บรรยากาศอาจดูไม่คึกคักมากนัก แต่สิ่งที่เห็นได้ชัด คือ มีร้านอาหารดังจากต่างประเทศมาเปิดสาขาที่นี่เยอะพอสมควรไม่ว่าจะเป็นร้านตำมั่วของเมืองไทย ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า ร้านพิซซ่า ร้านกาแฟอเมซอน ร้านอาหารของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ รวมถึงร้านไอศครีมสเวนเซ่นส์ 

ส่วนจุดอื่นๆที่น่าสนใจก็จะมีโซนชั้นล่างที่เป็นลานวงกลม โดยมีการตั้งเครื่องเล่นสำหรับเด็ก มีแม่ค้านำทุเรียนมาวางขาย รวมไปถึงจุดของซุปเปอร์มาร์เกตซึ่งมีสินค้านานาชนิด ขณะที่บริเวณชั้นอื่นๆจากที่ผมเดินขึ้นไปสำรวจก็พบว่าค่อนข้างเงียบเหงามาก พื้นที่บางส่วนยังมีการปรับปรุง แต่ก็ยังมีจุดของโรงภาพยนตร์ที่อยู่บริเวณชั้นบนซึ่งจะเป็นจุดที่ได้รับความนิยมจากวัยรุ่นชาวกัมพูชากันพอสมควร ซึ่งผมว่าปัจจุบันห้าง The Heritage Walk เนี่ยค่อนข้างจะดูเหมือนศูนย์รวมร้านอาหารมากกว่า คนที่มาเดินส่วนใหญ่ก็คือมานั่งทานอาหาร เพราะพวกร้านที่ขายของใช้ต่างๆแทบไม่มีให้เห็นเลยและในวันธรรมดาก็ดูเงียบสุดๆ ซึ่งบางทีอาจจะคึกคักในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ก็เป็นไปได้


ห้าง The Heritage Walk ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง
ที่ตั้งอยู่ในเมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา

โซนชั้นล่างจะเป็นพื้นที่เปิดโล่ง
โดยจะมีการนำเครื่องเล่นเด็กมาตั้งเอาไว้อยู่ตรงกลาง

ซุปเปอร์มาร์เกตก็ตั้งอยู่ในโซนชั้นล่าง
โดยมีสินค้าค่อนข้างหลากหลาย

ร้านอาหารมีเยอะมาก นี่คือร้านปิ้งย่างชื่อดัง
ซึ่งก็คือร้าน บาร์บีคิวพลาซ่า คนไทยเราคุ้นเคยกันดี

ร้านพิซซ่าก็มีครับ ซึ่งจะมีร้านอาหารต่างประเทศ
มาเปิดสาขาที่นี่กันพอสมควร

ร้านตำมั่วของไทยเราก็มาเปิดสาขาที่นี่เหมือนกัน
ผมได้แต่ถ่ายรูปด้านนอก สาเหตุเพราะไม่มีเงินมากพอ
ที่จะเข้าไปทาน

มีของคาวไปแล้วก็ต้องมีของหวานอย่าง
ไอศครีมสเวนเซ่นส์

วันที่ผมไปเดินก็ไปเจอทุเรียนพอดี
ดูน่าทานพอสมควร แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นพันธุ์อะไร

ผมเดินสำรวจไปจนทั่วก็พบว่าชั้นบนสุดจะมีโรงหนัง
เห็นมีภาพหนังไทยด้วย ซึ่งคนที่มาดูส่วนใหญ่จะเป็นเด็กวัยรุ่น

ผมไปเดินวันธรรมดา บรรยากาศที่เห็นก็เป็นประมาณนี้เลย
ดูแล้วค่อนข้างเงียบเหงาและพื้นที่บางส่วนก็มีการปรับปรุงอยู่


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
26 กรกฎาคม 2565

วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

 

EP.52 สีสันยามค่ำคืน
หน้าพระราชวังเขมรินทร์


พระราชวังเขมรินทร์ในประเทศกัมพูชาถือว่าเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของกรุงพนมเปญ ผมเคยไปเข้าไปชมบรรยากาศด้านในมาแล้ว 1 ครั้ง ถ้าให้เปรียบไปก็ไม่ได้แตกต่างอะไรจากพระบรมราชวังหรือวัดพระแก้วตรงแถวสนามหลวงของบ้านเรา ปัจจุบันพระราชวังเขมรินทร์ก็เป็นพื้นที่เขตพระราชฐานและเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นสัญลักษณ์ของกรุงพนมเปญ ซึ่งด้วยความที่เป็นสัญลักษณ์และตั้งอยู่ใจกลางกรุงพนมเปญ ทำให้มักจะมีนักท่องเที่ยวทั้งคนกัมพูชาและชาวต่างชาติมาเที่ยวชมกันอยู่บ่อยๆ

สำหรับการเที่ยวชมพระราชวังเขมรินทร์นั้นสามารถเข้าชมได้เฉพาะในช่วงเวลากลางวัน ส่วนในเวลากลางคืนถึงแม้จะไม่สามารถเข้าไปชมกันได้ แต่ก็มีความคึกคักจากบรรยากาศที่อยู่บริเวณรอบๆซึ่งก็คือสีสันในยามค่ำคืนที่มักจะมีชาวกัมพูชามานั่งรวมกลุ่มซึ่งส่วนมากจะมากันในรูปแบบของทั้งกลุ่มเพื่อน กลุ่มของครอบครัวและในรูปแบบของคู่รัก โดยส่วนใหญ่ก็มานั่งพูดคุยหรือถ่ายรูปกับพวกแสงสีในยามค่ำคืนและก็มีกลุ่มที่มานั่งทานอาหารเช่นกัน

ส่วนคนเดินทางคนเดียวอย่างผมก็ได้แต่เดินชมบรรยากาศแสงสียามค่ำคืนและดูวิถีชีวิตของชาวกัมพูชาไป ซึ่งจากการที่เดินเดินสำรวจบรรยากาศไปรอบๆก็เห็นได้ว่าจะมีแต่คนท้องถิ่นมานั่ง ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติผมแทบไม่เจอเลยสักคนทั้งๆที่โซนนักท่องเที่ยวก็อยู่ในระยะที่ใกล้ๆกัน ขณะที่บรรยากาศอื่นๆที่ได้พบเห็นก็จะเป็นพวกแม่ค้าพ่อค้าที่นำของมาขายทั้งของเล่นและของกินต่างๆมากมาย รวมไปถึงพวกบรรดารถรับจ้างที่จอดกันอย่างเรียงรายเพื่อรอรับผู้โดยสาร ซึ่งภาพที่ผมได้เห็นทั้งหมดก็เป็นเสน่ห์และสีสันยามค่ำคืนหน้าพระราชวังเขมรินทร์ที่เต็มไปด้วยความคึกคักจากบรรดาผู้คนชาวกัมพูชา


สีสันยามค่ำคืนหน้าพระราชวังเขมรินทร์ในกรุงพนมเปญ
เต็มไปด้วยความคึกคักจากบรรดาผู้คนท้องถิ่นชาวกัมพูชา

วัดพระแก้ว ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับพระราชวัง
ส่วนถนนด้านหน้าคนไทยจะเรียกกันว่า ถนนหน้าพระลาน
ลักษณะต่างๆดูไม่ต่างจากวัดพระแก้วของบ้านเราเท่าไหร่

ช่วงเวลาค่ำคืนแบบนี้จะมีชาวกัมพูชาจำนวนมาก
ออกมานั่งจับกลุ่มพูดคุยและถ่ายรูปกับแสงสี
โดยจะมาทั้งในแบบคู่รัก กลุ่มเพื่อนและครอบครัว

แม่ค้านำของมาวางขายกันพอสมควร
อย่างภาพนี้ก็เป็นพวกของเล่นต่างๆทั้งตุ๊กตาและรถบังคับ

บรรดาลูกโป่งต่างๆก็เป็นสิ่งที่บรรดาเด็กๆถูกใจอย่างมาก

ของกินก็มีขายอยู่พอสมควร พวกแมลงทอด ตั๊กแตนทอด
ที่มีขายในบ้านเราที่กัมพูชาก็มีขายเช่นกัน

มีการปูเสื่อซึ่งเอาไว้สำหรับคนที่ต้องการนั่งทานอาหาร
พร้อมกับชมแสงสีในยามค่ำคืน

เขตรอบๆพระราชวังจะเป็นเขตพระราชฐาน
ทำให้มีการสั่งห้ามการบินโดรนโดยเด็ดขาด


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
24 กรกฎาคม 2565

วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

 

EP.51 โฮสเทล (ที่พักราคาประหยัด)


พวกคุณชอบนอน โฮสเทล กันไหมครับ?

สาเหตุที่ผมจั่วหัวบทความมาแบบนี้มันก็หมายความว่า บทความนี้ผมจะมาเน้นในเรื่องราวของที่พักอย่างแน่นอน ซึ่งพวกที่พักพักต่างๆเนี่ยมันก็มีหลายประเภทและหลากหลายราคาแตกต่างกันออกไป สำหรับคำถามที่ผมจั่วหัวเอาไว้ก็คือ โฮสเทล ซึ่งความหมายของคำนี้ก็คือ ที่พักราคาประหยัดและยังเจาะลึกเพิ่มเติมไปอีกว่าเป็นห้องสไตล์แบบนอนรวมหรือในศัพท์อังกฤษจะเรียกกันว่า ห้องดอร์ม ซึ่งโฮสเทลนี่แหละครับคือห้องพักที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหมู่นักเดินทางสไตล์แบบเป้เที่ยวหรือเรียกกันแบบภาษานิยมก็คือ ชาวแบคแพคเกอร์ นั่นเอง

สำหรับคำว่า โฮสเทล หลายคนที่เป็นนักท่องเที่ยวอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันมากนัก เพราะส่วนใหญ่ห้องพักสไตล์นี้อาจจะไม่ค่อยถูกจริตกับนักท่องเที่ยวชาวไทย เพราะแน่นอนการที่ต้องไปนอนร่วมห้องกับคนที่ไม่รู้จักมันย่อมแปลกและเป็นวัฒนธรรมที่คนไทยเราไม่คุ้นชิน แต่สำหรับชาวตะวันตกโดยเฉพาะพวกฝรั่งหัวทองจะคุ้นชินกันอย่างมากและกว่า 80-90 เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่มาพักโฮสเทลก็เป็นกลุ่มเจ้าฝรั่งหัวทองนี่แหละครับ

ส่วนบรรยากาศของโฮสเทลก็จะเป็นห้องที่ไม่ใหญ่มาก ส่วนใหญ่จะเป็นพวกตึกคูหาที่นำดัดแปลงเป็นที่พักในราคาประหยัด โดยภายในห้องจะมีเตียงที่เป็นลักษณะ 2 ชั้นโดยจำนวนเตียงก็จะแตกต่างกันไปน้อยสุดที่ผมเคยเห็นคือ 4 เตียง ส่วนมากสุดจะอยู่ที่ 30 เตียงขึ้นไป ขณะที่ห้องน้ำส่วนมากแล้วจะตั้งอยู่นอกห้องอาจจะมีบ้างที่มีห้องน้ำในตัวแต่ไม่เป็นที่นิยมมากนักและทุกโฮสเทลจะมีเครื่องปรับอากาศติดตั้ง นอกจากนั้นก็จะมีตู้ล็อคเกอร์ซึ่งจะมีเท่ากับจำนวนเตียงภายในห้องซึ่งทางที่พักจะแจกให้แก่ผู้เข้าพักทุกคนเป็นแบบล็อคเกอร์ของใครของมัน นอกจากนี้ก็จะมีผ้าเช็ดตัวให้แต่ส่วนมากที่ผมเห็นจะต้องจ่ายเงินเป็นค่ามัดจำ พอเราเช็คเอาท์แล้วก็นำผ้าเช็ดตัวมาคืนแล้วทางที่พักจะคืนเงินค่ามัดจำให้

ขณะที่เรื่องของการหลับนอนหรือพักในโฮสเทล ผมว่าเป็นอะไรที่นรกสำหรับคนที่นอนหลับยากหรือชอบความเป็นส่วนตัวอย่างมาก เพราะการที่ต้องไปนอนร่วมกับคนอื่นก็ย่อมต้องมีเสียงจุกจิกให้น่ารำคาญใจอยู่เกือบตลอด เช่น ไอ้ฝรั่งคนนี้กรนดังตลอดทั้งคืน อีสาวหมวยจากจีนเปิดกระเป๋าหยิบนู่นหยิบนี่แบบไม่เกรงใจใคร หรือลุงแก่ๆเมามาแล้วโวยวายเสียงดังและอีกสารพัดรูปแบบที่ต้องเจอ ดังนั้นหากใครรับกับเรื่องพวกนี้ไม่ได้ผมแนะนำให้ไปพักในโรงแรมแบบส่วนตัว แต่สำหรับคนที่ต้องการประหยัดเงินหรือคิดซะว่าเรามาเที่ยวไม่ได้มานอนพักในห้อง การมาพักในโฮสเทลก็ดูที่จะเหมาะกับพวกคุณไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากนั้นแล้วหากคุณเป็นคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีก็เป็นโอกาสที่ดีครับที่จะได้เพื่อนใหม่จากโฮสเทล เพราะส่วนมากคนที่มาพักโฮสเทลก็เดินทางคนเดียวเป็นหลักและพร้อมเปิดใจที่จะรับมิตรภาพใหม่ๆจากเพื่อนร่วมห้องอยู่แล้ว บางทีคุณอาจจะได้ร่วมแชร์สำหรับทริปท่องเที่ยวร่วมกัน ได้นั่งทานอาหารร่วมกันหรือบางคนได้เจอเนื้อคู่จากโฮสเทลมันก็มีให้เห็นมาแล้ว นอกจากนั้นพวกบรรดาพนักงานที่ทำงานโฮสเทลส่วนมากก็จะเป็นกันเองกับแขกที่มาพักและพูดภาษาอังกฤษได้ในระดับที่ค่อนข้างดีแถมยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ต่างๆภายในเมืองได้แบบละเอียดมากกว่าพวกพนักงานตามโรงแรมบางแห่งเสียอีก

ดังนั้นแล้วการนอนพักในโฮสเทลมันก็ไม่ได้ดูแย่อะไรและไม่ได้ดูด้อยค่าว่าต้องเป็นพวกนักท่องเที่ยวจนๆ ผมเคยรู้จักนักท่องเที่ยวบางคนในโฮสเทลเป็นถึงระดับเจ้าของธุรกิจมีเงินพอสมควร แต่ก็เลือกมาพักโฮสเทลเพราะว่าต้องการนำเงินไปใช้จ่ายด้านอื่นๆไม่ว่าจะเรื่องการเดินทาง อาหารการกินหรือท่องเที่ยว ดังนั้นแล้วถ้าคุณพร้อมเปิดใจพร้อมเรียนรู้กับสิ่งใหม่ๆจากประสบการณ์ในการเดินทางของคุณเอง คุณก็จะได้เห็นมุมมองใหม่ๆที่ไม่เคยได้สัมผัสเช่นกัน


โฮสเทล คือ ที่พักในราคาประหยัด โดยมาในรูปแบบ
Dormitory ซึ่งเป็นการการนอนรวมกับคนอื่นๆ
ปัจจุบันโฮสเทลมีเกือบทุกที่ทั่วโลก
และได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มชาวแบคแพคเกอร์

เตียงนอนในโฮสเทลจะเป็นแบบเตียง 2 ชั้น
หากใครขาไม่ดีผมไม่แนะนำให้นอนข้างบน

สิ่งที่มีให้ในโฮสเทลก็มีหมอน ผ้าห่มและผ้าม่านปิดกั้นรวมถึงปลั๊กไฟ
ถ้าเป็นโฮสเทลที่ราคาแพงสักหน่อยก็จะเป็นห้องแบบแคปซูล
ซึ่งมีดีไซน์ที่เก๋ไก๋และมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าโฮสเทลราคาถูกๆ

ตู้ล็อคเกอร์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับโฮสเทล
ซึ่งจะมีเอาไว้ใส่พวกของสำคัญที่มีค่าต่างๆ
ผมไปพักโฮสเทลมาหลายที่ของไม่เคยหายเลยสักครั้ง
แต่ก็ไม่ควรประมาทโดยเด็ดขาด
เพราะการนอนร่มกับคนแปลกหน้า
มันก็ย่อมมีพวกมิจฉาชีพแอบแฝงมาบ้าง

บรรยากาศด้านนอก ซึ่งตรงนี้จะตั้งอยู่ริมแม่น้ำ
ซึ่งอยู่ในกรุงพนมเปญของกัมพูชา
โดยโฮสเทลที่ผมพักมีชื่อว่า
Onederz Hostel Phnom Penh


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
22 กรกฎาคม 2565

วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

 


EP.50 สถานีรถไฟกรุงพนมเปญ


หากให้นึกถึง สถานีรถไฟ ผมเชื่อว่าหลายท่านน่าจะมีประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้บริการที่สถานีรถไฟมามากน้อยแตกต่างกันไป บางคนได้ใช้บริการบ่อยก็เพราะต้องเดินทางด้วยรถไฟเป็นพาหนะหลัก บางคนก็เดินทางไม่บ่อยนักหรือบางคนก็คือนักเดินทางตัวยงซึ่งชอบการนั่งรถไฟเป็นชีวิตจิตใจ ผมเองก็อยู่ในกลุ่มหลังครับก็คือ เป็นนักเดินทางที่ชอบการนั่งรถไฟเป็นอย่างมาก ดังนั้นผมจึงมีประสบการณ์ในการเดินทางไปตามสถานีรถไฟต่างๆอยู่พอสมควร ซึ่งแน่นอนว่ารถไฟไทยเป็นสิ่งที่ผมและหลายๆท่านก็คุ้นชินกันอยู่แล้ว แต่กับรถไฟในต่างแดนแล้วก็ยังมีคนไทยอีกหลายคนที่ยังไม่มีประสบการณ์กับการนั่งรถไฟในต่างประเทศกันเท่าไหร่

สำหรับสถานีรถไฟในต่างประเทศนั้นก็จะมีความเหมือนและแตกต่างจากบ้านเรา บางประเทศก็จะดูหรูหราบางประเทศก็จะดูเก่าแก่แต่ก็มีความคลาสสิค ส่วนตัวผมในช่วงหลังมักเดินทางในโซนอาเซียนก็เคยมีประสบการณ์นั่งรถไฟในประเทศพม่าและเวียดนามมาแล้ว แต่กับประเทศกัมพูชาซึ่งผมไปบ่อยพอสมควร ผมยังไม่มีประสบการณ์นั่งรถไฟเลยสักครั้งซึ่งก็ได้เพียงแต่ไปชมบรรยากาศของสถานีรถไฟในประเทศกัมพูชาเท่านั้นซึ่งก็คือ สถานีรถไฟกรุงพนมเปญ ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักของประเทศกัมพูชา โดยที่จะตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานฑูตแคนาดามากนัก

สถานีรถไฟกรุงพนมเปญ เริ่มเปิดให้ประชาชนใช้บริการในปี 1932 แต่ก็ต้องมีเหตุต้องยุติการให้บริการไปในช่วงเวลาหนึ่งซึ่งก็๋ตรงกับสมัยที่กลุ่มเขมรแดงเรืองอำนาจ หลังจากสงครามยุติลงก็ได้มีการปรับปรุงสถานีรถไฟกรุงพนมเปญกันครั้งใหญ่และกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในปี 2010 ซึ่งรูปแบบตัวอาคารก็มีลักษณะโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์ตะวันตกซึ่งเดาไม่ยากครับว่ารูปแบบการก่อสร้างก็มีรูปแบบจากทางฝรั่งเศสพอสมควร โดยในปัจจุบันสถานีรถไฟกรุงพนมเปญมีการเดินรถอยู่ใน 2 เส้นทางจากที่ผมทราบข้อมูลมาก็จะเป็นเส้นทางสายเหนือที่จะไปทางสถานีปอยเปตซึ่งติดกับด่านชายแดนของไทยกับอีกหนึ่งสายก็จะเป็นสายใต้ซึ่งจะมีเส้นทางไปยัง ตาแก้ว กำปอตรวมไปถึงแกบ

โดยถึงแม้ว่าในปัจจุบันเส้นทางรถไฟในกัมพูชาอาจจะยังไม่มีการเดินรถแบบเต็มรูปแบบไปทั่วประเทศ แต่ผมว่าในอนาคตอีกไม่นานการเดินทางด้วยรถไฟในกัมพูชาน่าจะสมบูรณ์และได้รับความนิยมไม่น้อย เพราะมีแผนในการสร้างทางรถไฟเชื่อมต่อกับเมืองไทยของเราตรงด่านพรมแดนบ้านคลองลึก ส่วนในปัจจุบันสถานีรถไฟกรุงพนมเปญเริ่มที่จะมีร้านอาหารและร้านกาแฟมาให้บริการแก่ผู้โดยสารเพื่อรองรับการขยายตัวและเปิดเส้นทางใหม่ๆในอนาคตและสิ่งที่เห็นอีกหนึ่งอย่างก็คือ การที่จะมีพวกบรรดาวัยรุ่นชาวกัมพูชาและนักท่องเที่ยวมักจะมาถ่ายรูปบรรยากาศภายในสถานีรถไฟกันพอสมควร สาเหตุคงเป็นเพราะว่ามีบรรยากาศที่เงียบและไม่วุ่นวายและยังมีรถไฟเป็นโลเกชั่น ทำให้กลายเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คยอดนิยมของกรุงพนมเปญไปโดยปริยาย


สถานีรถไฟกรุงพนมเปญ เป็นสถานีรถไฟหลักของกัมพูชา
ซึ่งรูปแบบตัวอาคารค่อนข้างมีความโดดเด่น
โดยมีสถาปัตยกรรมในสไตล์แบบตะวันตก

สถานีรถไฟกรุงพนมเปญเริ่มเปิดให้บริการในปี 1932
แต่ในยุคที่เขมรแดงทำการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ุ
ทำให้ต้องยุติการให้บริการ ก่อนที่จะกลับมาเปิดให้บริการ
อีกครั้งในปี 2010

บรรยากาศภายในสถานีเริ่มมีร้านอาหารและร้านเครื่องดื่ม
มาเปิดกันบ้างแล้ว ที่เห็นนี่คือร้านกาแฟอเมซอน
แต่วันที่ผมไปทางร้านยังไม่เปิดให้บริการ

รถจักรไอน้ำภายในสถานี 
โดยเป็นอีกหนึ่งจุดที่ผู้คนมักจะมาถ่ายรูปกัน

ขบวนรถไฟที่จอดอยู่ภายในสถานี
ผมลองสังเกตุดูก็พบว่ารถไฟของกัมพูชา
จะมีการนำแอร์บ้านมาติดตั้งภายในขบวนด้วย
ดูแล้วก็เป็นไอเดียที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว

ตู้จำหน่ายตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟกรุงพนมเปญ
ปัจจุบันมีเดินรถไปในบางเส้นทางอย่างเช่น
ปอยเปต ตาแก้ว กำปอต แกบ

ปัจจุบันที่สถานีรถไฟกรุงพนมเปญ
ได้กลายเป็นสถานที่ยอดฮิตของวัยรุ่นชาวเขมร
ที่มักจะมาถ่ายรูปบรรยากาศ โดยมีรถไฟเป็นฉากหลัง


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
16 กรกฎาคม 2565

วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

 


EP.49 แพขนานยนต์ข้ามฟาก 
พนมเปญ - อเรยสาท


ผมเคยมีประสบการณ์ในการเดินทางด้วยการใช้แพขนานยนต์ข้ามฟากมาแล้วซึ่งการเดินทางในครั้งนั้นก็ไม่ได้อยู่ไหนไกลครับอยู่แถวๆบ้านของผมในจังหวัดสมุทรปราการซึ่งก็เป็นการข้ามฟากแม่น้ำเจ้าพระยาจากฝั่งตลาดพระประแดงไปยังฝั่งสำโรง โดยในครั้งนั้นผมเดินทางด้วยการใช้มอเตอร์ไซค์เป็นยานพาหนะ แต่การใช้บริการแพขนานยนต์ข้ามฟากในครั้งล่าสุดของผมเกิดขึ้นในประเทศกัมพูชาซึ่งเป็นการข้ามฟากแม่น้ำโขงจากฝั่งกรุงพนมเปญไปยังฝั่งชุมชนอเรยสาทในจังหวัดกันดาล ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ผมไม่มียานพาหนะมันจึงเป็นการข้ามฟากแม่น้ำที่ราคาค่อนข้างจะถูกเลยทีเดียว

สำหรับการเดินทางทางด้วยแพขนานยนต์ข้ามฟากแม่น้ำโขงจากฝั่งพนมเปญไปยังฝั่งอเรยสาทในปัจจุบันถือว่าได้รับความนิยมจากชาวกัมพูชาอยู่พอสมควร เพราะมีความสำคัญต่อการเดินทางอย่างมากและช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางได้ดีพอสมควร ซึ่งจากฝั่งของอเรยสาทนั้นจะขึ้นอยู่กับจังหวัดกันดาลซึ่งเป็นจังหวัดที่โอบล้อมรอบกรุงพนมเปญเอาไว้ ดังนั้นหากใครมาเที่ยวที่กรุงพนมเปญก็ต้องผ่านเส้นทางจังหวัดกันดาลอย่างแน่นอน ขณะที่ในส่วนของแพขนานยนต์ข้ามฟากที่กัมพูชานั้นจะมีทั้งสิ้น 2 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นไว้สำหรับจอดยานพาหนะต่างๆ ส่วนชั้นบนผมว่าคล้ายๆเอาไว้เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงเพราะมีที่นั่งอย่างดิบดีและเอาไว้รับลมในช่วงที่อากาศดีๆ

ส่วนระยะเวลาในการเดินทางนั้นผมไม่ได้นับว่าใช้เวลานานเท่าไหร่แต่ไม่ได้ใช้เวลานานอย่างแน่นอน ขณะที่อัตราค่าโดยสารก็จะลดหลั่นไปตามชนิดของยานพาหนะถ้าเป็นรถยนต์ก็เสียแพงสุด แต่ถ้าเป็นคนเดินเท้าแบบผมก็จะเสียอยู่ที่ 500 เรียลหรือประมาณ 4 บาทเท่านั้น โดยแพขนานยนต์ข้ามฟากจากพนมเปญไปฝั่งอเรยสาทนั้นสามารถนำยานพาหนะเกือบทุกชนิดข้ามได้หมด ส่วนในอนาคตมีการคาดการณ์กันว่าแพขนานยนต์ข้ามฟากแม่น้ำโขงแห่งนี้อาจจะถูกลดความสำคัญลงไป เนื่องจากมีแผนที่ทางการของกัมพูชาจะร่วมมือกับทางเกาหลีใต้ที่จะสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงจากฝั่งพนมเปญถึงอเรยสาท แต่ถึงยังไงก็ตามผมว่าแม้อนาคตหลายอย่างอาจเปลี่ยนไปตามความเจริญเติบโตขึ้นของเมือง แต่เแพขนานยนต์ข้ามฟากแบบนี้ก็ยังมีเสน่ห์ในการเดินทาง ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างพวกเราก็จะได้เห็นวิถีชีวิตแบบคนท้องถิ่นจริงๆก็ด้วยวิธีการเดินทางแบบนี้แหละครับ


บริเวณทางที่จะลงไปสู่แพขนานยนต์ข้ามฟาก
โดยยานพาหนะเกือบทุกชนิดสามารถใช้บริการได้หมด
ไม่เว้นแม้แต่คนเดินเท้า

แพขนานยนต์ข้ามฟากจากฝั่งพนมเปญไปยังฝั่งอเรยสาท
สำหรับราคาสำหรับคนไม่มียาพาหนะแบบผม
จะอยู่ที่ 500 เรียลหรือประมาณ 4 บาท

แพขนานยนต์ของที่นี่จะมีด้วยกันทั้งสิ้น 2 ชั้น
ด้านบนสามารถขึ้นไปนั่งรับลมชมวิวกันได้

บรรยากาศระหว่างที่แพขนานยนต์แล่นผ่าน
ที่มองเห็นไกลๆก็จะเป็นแพขนานยนต์
ที่กำลังมุ่งหน้าไปฝั่งกรุงพนมเปญ

เวลาผมไปเที่ยวต่างประเทศแต่ละครั้ง
ผมจะต้องหาโอกาสใช้วิธีการเดินทาง
ในแบบที่คนท้องถิ่นเขาใช้กัน ซึ่งแพขนานยนต์แบบนี้
ก็เป็นอีกสิ่งที่จะทำให้ได้เห็นชีวิตการเดินทางของคนท้องถิ่นแบบจริงๆ

ใครหิวก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะบนแพขนานยนต์ข้ามฟาก
มีของกินขายอยู่พอสมควร

บรรยากาศบนชั้น 2 ของแพขนานยนต์ข้ามฟากที่กัมพูชา

แพขนานยนต์จะมุ่งหน้าไปยังฝั่งอเรยสาท
บริเวณด้านหน้าจะเป็นบ้านเรือนริมน้ำ
ซึ่งส่วนใหญ่ชาวบ้านจะประกอบอาชีพประมงกัน

ใช้เวลาเดินทางไม่นานก็มาถึงฝั่งอเรยสาท
ซึ่งจะตั้งอยู่ในจังหวัดกันดาล
โดยจังหวัดนี้จะมีลักษณะพื้นที่ที่โอบล้อมกรุงพนมเปญเอาไว้

บรรยากาศของฝั่งอเรยสาทในจังหวัดกันดาล

ภาพนี้ผมยืนถ่ายรูปจากฝั่งอเรยสาท 
ซึ่งภาพตึกสูงตรงๆหน้าก็คือฝั่งกรุงพนมเปญ
ซึ่งปัจจุบันมีทุนจากจีนมาลงทุนมหาศาล
ทำให้กรุงพนมเปญในวันนี้มีการพัฒนาเติบโตไปอย่างรวดเร็ว


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
14 กรกฎาคม 2565