วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

 

EP.222 โบสถ์ไม้เมืองคอนตูม


เมืองคอนตูมตั้งอยู่ทางที่ราบสูงตอนกลางในประเทศเวียดนาม โดยถึงแม้ว่าชื่อเสียงของที่นี่จะไม่โด่งดังเท่ากับที่ฮานอย ดานัง โฮจิมินห์ ฮอยอันไปจนถึงซาปา แต่ถึงกระนั้นเมืองคอนตูมก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่ไม่น้อยโดยหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นดั่งแลนด์มาร์กของเมืองคอนตูมก็คือ โบสถ์ไม้เก่าแก่ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปีซึ่งใครที่มีโอกาสแวะมาที่คอนตูมต่างก็ต้องมาชมโบสถ์ไม้แห่งนี้กันแทบทั้งนั้น

สำหรับโบสถ์ไม้เก่าแก่แห่งเมืองคอนตูมเป็นสถาปัตยกรรมแบบคาทอลิกและเป็นสถานที่สำคัญในการประกอบพิธีทางศาสนาคริสต์ โดยถูกสร้างขึ้นในปี 1913 และสร้างเสร็จสิ้นในปี 1918 โดยการออกแบบตัวโบสถ์ก็มีความผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมโรมันและบ้านยกพื้นแบบบานาซึ่งถือว่าเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมตะวันตกและเอกลักษณ์ประจำท้องถิ่นตอนกลางของเวียดนามได้อย่างลงตัว

ส่วนโครงสร้างทั้งหมดตั้งแต่เสา โครงถัก ไปจนถึงพื้นล้วนแต่ทำมาจากไม้ซึ่งเมื่อมองจากภายนอกจะมองเห็นโบสถ์ซึ่งมีความสูงสง่างาม ตกแต่งด้วยสีเข้มของไม้และกระเบื้อง ส่วนด้านหน้าโบสถ์จะมีหอระฆังสูง 24 เมตร ส่วนด้านภายในโบสถ์ก็ยิ่งมีความสวยงามวิจิตรบรรจงยิ่งนัก เพราะมีซุ้มประตูที่โค้งยาว ส่วนหน้าต่างก็เป็นกระจกสีสไตล์วิโทรซ์ซึ่งถูกประดับประดาด้วยภาวาดในเรื่องราวของพระคัมภีร์ซึ่งส่องประกายอย่างระยิบระยับผ่านแสงธรรมชาติ

สำหรับในปัจจุบันโบสถ์ไม้เก่าแก่แห่งเมืองคอนตูมได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมฟรีซึ่งนอกจากจะได้เห็นความสวยงามของตัวโบสถ์แล้วก็ยังมีจุดของรูปปั้นที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนาคริสต์ซึ่งจะตั้งอยู่ทางด้านนอกของตัวโบสถ์ นอกจากนั้นยังสามารถเรียนรู้ความเป็นมาของโบสถ์ไม้แห่งเมืองคอนตูมซึ่งมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจอย่างมาก


โบสถ์ไม้เก่าแก่อายุไม่ต่ำกว่า 100 ปีเป็นสถานที่ท่องเที่ยว
ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองคอนตูม

บรรยากาศภายในโบสถ์ไม้แห่งเมืองคอนตูมซึ่งมี
ความสวยงามและวิจิตรตระการตาอย่างมาก

ภายในมหาวิหารจะมีการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม
รวมถึงมีรูปปั้นของนักบุญของศาสนาคริสต์ให้ได้ชมกัน

ภายนอกโบสถ์จะเห็นรูปปั้นของพระแม่มารี
ซึ่งกำลังอุ้มร่างของพระเยซูซึ่งอยู่ในสภาพได้รับบาดเจ็บ

พื้นที่บริเวณรอบโบสถ์มีการประดับตกแต่งอย่างสวยงาม


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
6 พฤศจิกายน 2568

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2568

 

EP.221 ป้ายหยุดรถไฟคลองแขวงกลั่น


เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ.2563 ได้เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ของรถไฟไทยซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่รถไฟขนส่งสินค้าชนเข้ากับรถบัสของคณะทอดกฐินซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณจุดตัดทางรถไฟซึ่งอยู่ใกล้กับป้ายหยุดรถไฟคลองแขวงกลั่นในพื้นที่อำเภอเมืองของจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยอุบัติเหตุในครั้งนี้ก็เป็นอุบัติเหตุที่ค่อนข้างร้ายแรงและส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 20 คนและมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 39 คนซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่มากับรถบัสของคณะทอดกฐิน

เวลาผ่านมา 5 ปีผมได้มีโอกาสไปสำรวจพื้นที่ของป้ายหยุดรถไฟคลองแขวงกลั่นซึ่งในปัจจุบันมีสถานะเป็นเพียงแค่ป้ายหยุดรถไฟและตั้งอยู่ในเส้นทางรถไฟสายตะวันออก โดยบรรยากาศในปัจจุบันของป้ายหยุดรถไฟคลองแขวงกลั่นก็ค่อนข้างที่จะดูวังเวงและเงียบเหงา แต่ถึงกระนั้นที่นี่ก็เป็นจุดที่ผู้โดยสารสามารถมารอรถไฟสายตะวันออกที่จะเดินทางไปยัง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี สระแก้ว อรัญประเทศ พัทยา ชลบุรี รวมไปถึงรถไฟที่จะเข้าสู่กรุงเทพ

ส่วนบรรยากาศเท่าที่ผมได้ไปสำรวจก็พบว่าที่นี่จะมีอาคารสถานีร้างซึ่งปัจจุบันก็ทรุดโทรมไปตามกาลเวลา นอกจากนั้นยังมีจุดของอดีตบ้านพักของเจ้าหน้าที่ประจำสถานีซึ่งก็มีสภาพถูกทิ้งร้างเช่นเดียวกัน นอกจากนั้นก็จะมีจุดของสะพานลอยที่มีไว้สำหรับข้ามชานชาลาและพื้นที่ของป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่นก็จะถูกรายล้อมไปด้วยท้องทุ่งนา

ส่วนอีกหนึ่งจุดที่ผมไม่พลาดในการไปสำรวจบรรยากาศก็คือ จุดตัดทางรถไฟ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้เคยเป็นจุดที่เกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกับรถบัสเมื่อปี 2563 โดยที่ในปัจจุบันได้มีการนำอุปกรณ์อย่างไม้กั้นทางรถไฟและสัญญาณไฟมาติดตั้งเพื่อความปลอดภัยแก่ผู้ที่ต้องผ่านสัญจรไปมาและป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงอันจะนำมาซึ่งความสูญเสียซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น


ป้ายหยุดรถไฟคลองแขวงกลั่น ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา
และเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟสายตะวันออก

ตั้งอยู่ระหว่างสถานีรถไฟเปรงและสถานีรถไฟคลองบางพระ

อาคารสถานีเก่าซึ่งมีสภาพทรุดโทรมจากการถูกทิ้งร้าง

จุดของชานชาลาซึ่งที่นี่ไม่ค่อยมีผู้โดยสารมารอรถไฟ
ทำให้บรรยากาศดูวังเวงและเงียบเหงาแบบสุดๆ

บรรยากาศถูกรอบล้อมไปด้วยท้องทุ่งนา

จุดตัดทางรถไฟตรงนี้เคยเกิดอุบัติเหตุที่รถไฟชนกับรถบัส
ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตมากมาย


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
28 ตุลาคม 2568

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2568

 

EP.220 บ้านร้างแห่งเมืองมะละกา


ผมไปเที่ยวเมืองมะละกาในประเทศมาเลเซียในครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยที่ผมก็ได้แวะเที่ยวในหลายที่และหนึ่งในนั้นก็คือสถานที่แปลกๆอย่างบ้านร้าง สำหรับบ้านเมืองผมไม่มีข้อมูลแบบชัดแจ้งว่าในอดีตใครเป็นเจ้าของก่อนที่จะถูกทิ้งร้างอย่างที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนสภาพของบ้านหลังนี้แม้ว่าจะไม่มีใครอยู่อาศัยแล้ว แต่ทว่ากลับถูกจัดให้เป็นจุดให้ผู้คนแวะมาชมได้ในทุกๆวัน

ผมใช้จีพีเอสในการสำรวจหาพิกัดของบ้านร้างหลังนี้จนกระทั่งมาเจอซึ่งบริเวณด้านหน้าก็ดูเป็นบ้านแบบธรรมดาทั่วๆไปซึ่งจะมีการเปิดทางเข้าให้ได้เข้าไปชมบรรยากาศจากด้านภายในซึ่งเมื่อผมเดินเข้าไปยังด้านภายในแล้วก็พบว่าบรรยากาศดูค่อนข้างจะอึมครึมซึ่งค่อนข้างสร้างความอึดอัดให้แก่ผู้ที่ได้เดินเข้าไป แม้ว่าผมจะเข้าไปสำรวจในช่วงกลางวันแต่ก็รู้สึกถึงความวังเวงอยู่ไม่น้อย

ส่วนลักษณะของบ้านหลังนี้ก็จะมีทั้งสิ้น 2 ชั้นแต่จุดของชั้นบนแทบจะเป็นแค่พื้นที่โล่งๆ ส่วนพื้นที่ชั้นล่างจะเห็นบรรยากาศที่ค่อนข้างรกร้างและเต็มไปด้วยเศษใบไม้รวมไปถึงเศษกระจก ขณะที่จุดของทางเดินก็ไม่ได้เดินสะดวกมากนักทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังซึ่งภายในบ้านจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนโดยส่วนด้านหลังสุดของตัวบ้านค่อนข้างจะมืดและดูคับแคบซึ่งบรรยากาศเท่าที่ผมได้เห็นมากับตาก็สร้างความอึดอัดอยู่ไม่น้อย แต่ถึงกระนั้นที่นี่ก็เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวและพวกล่าท้าผีมักแวะเวีียนกันมาอยู่เรื่อยๆ


บริเวณโถงทางเข้าด้านหน้าของบ้านร้างในเมืองมะละกา

หน้าต่างไม่มีหลงเหลืออยู่อีกแล้ว ส่วนพื้นที่ชั้นบน
ก็แทบจะไม่เหลือทางเดิน

ตัวบ้านมีลักษณะ 2 ชั้นแต่สามารถเดินดูได้แค่โซนชั้นล่าง

โซนด้านในสุดค่อนข้างจะมืดทึบและทางเดินก็ดูรก
ทำให้เป็นจุดที่ดูน่ากลัวและวังเวงมากที่สุด

บริเวณรอบตัวบ้านก็มีหญ้าขึ้นรกทึบ แต่ถึงกระนั้น
บ้านร้างแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ท่ามกลางแหล่งชุมชน


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
20 ตุลาคม 2568

วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568

 

EP.219 สวนประติมากรรมอาเซียน


เวลาที่ได้ออกไปข้างนอกหรือไปเที่ยวต่างประเทศ ผมมักชอบใช้เวลาพักผ่อนที่สวนสาธารณะเนื่องจากมีความชอบในความสงบและสามารถหลีกหนีความวุ่นวายจากบรรยากาศภายนอกได้เป็นอย่างดี โดยในช่วงเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาผมมีโอกาสไปเที่ยวที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในประเทศมาเลเซียและก็ไม่พลาดที่จะแวะไปพักผ่อนชมบรรยากาศทีี่สวนสาธารณะในกรุงกัวลาลัมเปอร์

ส่วนหนึ่งในสถานที่ที่ผมได้ไปก็คือ สวนประติมากรรมอาเซียน ซึ่งตั้งอยู่ติดกับอนุสาวรีย์แห่งชาติและสวนพฤกษศาสตร์เปอร์ดาน่า โดยสวนประติมากรรมอาเซียนเป็นสวนสาธารณะที่มีจุดไฮไลท์สำคัญก็คือ ผลงานด้านประติมากรรม ซึ่งมีทั้งงานไม้หินอ่อนเหล็กรวมไปถึงงานไม้ไผ่ซึ่งผลงานประติมากรรมก็ได้รับการออกแบบสร้างสรรค์จากศิลปินจากภูมิภาคอาเซียนซึ่งก็ประกอบไปด้วย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ รวมไปถึงไทย

โดยผลงานประติมากรรมก็มีให้ได้ชมกันก็มีอย่างเช่น ผลงานนามธรรมแผ่นทองแดงของศิลปินชาวอินโดนีเซีย ผลงานไฟเบอร์กลาสที่ประกอบไปด้วยกริชและดาบหักของศิลปินชาวมาเลเซีย และผลงานของศิลปินจากทั้งไทย สิงคโปร์และฟิลิปปินส์ซึ่งถ้าหากตีความหมายของผลงานประติมากรรมก็จะสะท้อนให้เห็นถึงสัจธรรมและมุมมองของชีวิต โดยสวนประติมากรรมแห่งนี้เปิดให้เข้าชมกันฟรีในทุกๆวันและด้วยความนักท่องเที่ยวมีไม่มาก ทำให้สามารถเดินชมได้อย่างเพลิดเพลินและเต็มไปด้วยความเงียบสงบ


สวนประติมากรรมอาเซียน ตั้งอยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์
ของประเทศมาเลเซียโดยเปิดให้เข้าชมกันทุกวัน

จุดเด่นของที่นี่คือ การมีงานประติมากรรมให้ได้ชมกัน
ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินในภูมิภาคอาเซียน

ผลงานประติมากรรมแม้ว่าจะมีรูปลักษณ์ที่ดูแปลกตา
แต่ก็แอบซ่อนความหมายและสะท้อนต่อมุมมองของชีวิต

จากที่ได้เดินสำรวจบรรยากาศ ผมรู้สึกชอบผลงาน
ชิ้นนี้มากที่สุด


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
10 ตุลาคม 2568

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2568

 

EP.218 ตลาดหน้าสถานีรถไฟพัทลุง


ในช่วงทุกๆเกือบบ่าย 4 โมงไปจนถึงสักช่วงประมาณ 3-4 ทุ่มของทุกวันๆทีี่บริเวณด้านหน้าของสถานีีรถไฟพัทลุงจะมีบรรยากาศที่ค่อนข้างคึกคักเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้านำของกินต่างๆมาตั้งขายซึ่งของกินก็มีอยู่หลากหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นพวกอาหารตามสั่ง ข้าวมันไก่ ไก่ทอดสูตรของทางภาคใต้ ไปจนถึงเมนูเครื่องดื่มอย่างชา กาแฟและน้ำผลไม้ปั่น

ผมมีโอกาสไปที่พัทลุงเมื่อต้นเดือนสิงหาคมทีี่ผ่านมาซึ่งระหว่างที่นั่งรอรถไฟขบวน 170 เพื่อที่จะกลับกรุงเทพ ผมก็ได้เดินสำรวจตลาดของกินแห่งนี้นอกจากนั้นก็กะจะหาอะไรกินก่อนที่จะต้องเดินทางไกลซึ่งบรรยากาศถือว่าค่อนข้างมีความคึกคักเป็นอย่างมาก เพราะจะมีทั้งคนท้องถิ่นชาวพัทลุงและบรรดาผู้โดยสารที่มารอรถไฟมาเดินหาซื้อของกินกันพอสมควร

นอกจากนั้นแล้วบริเวณนี้ยังอยู่ใกล้สวนสุขภาพซึ่งบางคนที่ออกกำลังกายเสร็จแล้วก็จะมาเดินตลาดเพื่อหาซื้อของกินในช่วงมื้อเย็นและบริเวณใกล้ๆตลาดยังมีภาพสตรีทอาร์ตบนกำแพงซึ่งเป็นภาพที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของจังหวัดพัทลุง นอกจากนั้นแล้วก็ยังสามารถมองเห็นวิวของเขาอกทะลุซึ่งเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กและสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดพัทลุง


ผู้คนมากมายแวะเวียนมาหาซื้อของกินที่
ตลาดหน้าสถานีีรถไฟพัทลุงในช่วงเวลาเย็น

ร้านข้าวมันไก่เจ๊ญาได้รับความนิยมค่อนข้างมาก
โดยมีคนมาซื้อกลับบ้านและนั่งทานกันพอสมควร

ร้านอาหารตามสั่งซึ่งมีเมนูให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย

ร้านนี้ขายเมนูพวกน้ำเต้าหู้ เต้าฮวย ขนมปังสังขยา

สามารถมองเห็นวิวของเขาอกทะลุได้อย่างชัดเจน


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
30 กันยายน 2568

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568

 

EP.217 ป้อมซานติอาโก


ชนชาติสเปนในสมัยอดีตจัดว่าเป็นชนชาติที่มีความยิ่งใหญ่ในเรื่องของการเดินเรือและการแสวงหาอาณานิคมใหม่ๆซึ่งหนึ่งในประเทศที่เคยตกเป็นอาณานิคมของสเปนก็คือ ประเทศฟิลิปปินส์ โดยในปัจจุบันแม้ว่าสเปนจะไม่ได้ปกครองฟิลิปปินส์อีกต่อไปแล้ว แต่สถาปัตยกรรมที่สเปนทิ้งเอาไว้ก็ยังสามารถพบเห็นได้อย่างมากมายในประเทศฟิลิปปินส์

โดยหนึ่งในนั้นก็คือ ป้อมซานติอาโก ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงมะนิลา สำหรับป้อมซานติอาโกก็ถูกสร้างขึ้นในปี 1571 โดยผู้สร้างก็คือ มิเกล โลเปซ เด เลกัสปี ซึ่งเป็นนักเดินเรือชาวสเปนโดยตัวป้อมปราการถูกสร้างด้วยหินแข็งมีเส้นรอบวง 2,030 ฟุตและมีรูปร่างเกือบเป็นรูปสามเหลี่ยม

ส่วนตัวกำแพงมีความสูง 22 ฟุตหนา 8 ฟุตและด้านหน้าประตูทางเข้ามีความสูง 40 ฟุตโดยภายในป้อมจะมีทั้งปืนใหญ่ ค่ายของทหารกองรักษาการณ์ ที่พักของพัศดี นอกจากนั้นยังมีคลังที่เอาไว้เก็บสินค้าต่างๆอย่างเช่น คลังดินปืน บ่อเก็บน้ำ นอกจากนั้นแล้วที่ตั้งของป้อมซานติอาโกก็จะอยู่บริเวณปากแม่น้ำปาซิกซึ่งในยุคอดีตจะใช้ป้อมซานติอาโกเป็นสถานที่สำหรับส่งขายเครื่องเทศไปยังทั้งทวีปยุโรปและอเมริกา

สำหรับในปัจจุบันป้อมซานติอาโกได้มีการบูรณะใหม่ในบางส่วน เนื่องจากเคยถูกทั้งทำลายและเกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยปัจจุบันก็มีทางฝ่ายบริหารของอินทรามูลอสเป็นฝ่ายดูแล บูรณะและบำรุงรักษาซึ่งป้อมซานติอาโกก็เป็นส่วนหนึ่งของแหล่งท่องเที่ยวในโซนอินทรามูลอสซึ่งจะตั้งอยู่ห่างจากมหาวิหารมะนิลาเพียงแค่ไม่กี่เมตร


ป้อมซานติอาโก ตั้งอยู่ในเขตท่องเที่ยวย่านเมืองเก่า
อินทรามูลอสซึ่งอยู่ในกรุงมะนิลาของประเทศฟิลิปปินส์

ป้อมปราการถูกสร้างขึ้นในปี 1517 โดยกลุ่มชาวสเปน
ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของฟิลิปปินส์

ในสมัยอดีตฝ่ายสเปนเคยใช้ป้อมซานติิอาโกในเรื่องของ
ทั้งการป้องกันศัตรูรวมถึงการค้าทางทะเล

อนุสาวรีย์ของ โฮเซ่ ริซัล ซึ่งเป็นวีรบุรุษของฟิลิปปินส์
ในการต่อต้านการรุุกรานจากสเปน

ด้านภายในของป้อมซานติอาโกจะมีการแบ่งเป็นโซนต่างๆ
ซึ่งแต่ละจุดจะมีประวัติความเป็นมาในได้รับทราบกัน

ร้านคาเฟ่ที่ขายพวกเครื่องดื่มก็มีเปิดให้บริการ
ภายในพื้นที่ของป้อมซานติอาโกเช่นกัน


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
22 กันยายน 2568

วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568

 

EP.216 หมู่บ้านกอนเกอตู


เมืองคอนตูมเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศเวียดนาม โดยบรรยากาศของที่นี่มีความเป็นชนบทและชาวบ้านยังยึดถือวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ค่อนข้างสูง นอกจากนั้นแล้วยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติและด้านวัฒนธรรมให้นักท่องเที่ยวได้มาสัมผัส โดยหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในด้านวัฒนธรรมก็คือ หมู่บ้านกอนเกอตู ซึ่งเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่มีอายุไม่ต่ำกว่า 300 ปี

สำหรับหมู่บ้านกอนเกอตูก็เป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชนเผ่าบานาซึ่งมักจะอาศัยกันอยู่ทางตอนกลางของเวียดนาม โดยคำว่ากอนในภาษาบานาก็คือ หมู่บ้าน ส่วนคำว่าเกอตูก็คือ โบราณ โดยในปัจจุบันหมู่บ้านกอนเกอตูได้ถูกยกให้เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมซึ่งชาวบ้านที่นี่ยังคงยึดถือวิถีชีวิตกันแบบเรียบง่ายและมีการสร้างสถาปัตยกรรมหลายอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวบานาซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ บ้านกระท่อม ซึ่งจะมีจุดเด่นก็คือการยกพื้นสูง

ส่วนบรรยากาศของหมู่บ้านกอนเกอตูเท่าที่ผมได้ไปสำรวจมาก็พบว่าผู้คนที่นี่จะยึดอาชีพอย่างเช่น การแกะสลักรูปปั้นไม้ การสานหวายและไม้ไผ่ บางส่วนก็ทำเกษตรกรรม นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังมีความเป็นกันเองและเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวทั้งการทักทายและยิ้มแย้ม โดยถ้าหากได้ไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสำคัญก็จะได้เห็นกิจกรรมของชุมชนที่จะนำเสนอให้นักท่องเที่ยวได้รับชมอย่างเช่น การแสดงดนตรีพื้นเมืองซึ่งก็มี ฆ้อง เป็นเครื่องดนตรีหลัก นอกจากนั้นก็ยังมีการเต้นระบำที่เป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่าบานา

นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีชาวบ้านบางส่วนได้มีการสร้างโฮมสเตย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะมาเที่ยวชมเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมจนทำให้ในปัจจุบันหมู่บ้านกอนเกอตูกลายเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชุมชนของเมืองคอนตูม ส่วนในเรื่องของความเชื่อของผู้คนที่นี่จะศรัทธาในศาสนาคริสต์ซึ่งจากที่ผมได้ไปเดินสำรวจก็ได้เจอกับโบสถ์คริสต์ซึ่งตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านซึ่งถือว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของชนเผ่าบานามาอย่างยาวนาน


ทางเข้าหมู่บ้านกอนเกอตูซึ่งระหว่างทางที่ผมเดินทางมา
ก็พบว่าถนนหนทางไม่ค่อยที่จะดีเท่าไหร่นัก

บรรยากาศภายในหมู่บ้านกอนเกอตู โดยในปัจจุบัน
ถูกยกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนของเมืองคอนตูม

บ้านของผู้คนที่นี่จะมีการยกพื้นสูงซึ่งถือว่าเป็น
เอกลักษณ์ในการออกแบบของชนเผ่าบานา

โบสถ์คริสต์ประจำหมู่บ้านกอนเกอตูถือว่าเป็น
ศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน

เด็กๆออกมาวิ่งเล่น ส่วนผู้ใหญ่ก็อยู่กันแบบเรียบง่าย
โดยยึดอาชีพอย่างทำเกษตรหรือสานหวายและไม้ไผ่


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
16 กันยายน 2568