วันพุธที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

 

EP.188 ทะเลทรายแดงแห่งมุยเน่


ถ้าพูดถึงทะเลทรายผมเชื่อว่าหลายท่านคงจะจินตนาการภาพของความเวิ้งว้าง ความแห้งแล้ง ความร้อนระอุไปจนถึงบรรดาต้นกระบองเพชรและพาหนะที่เป็นสัตว์อย่างอูฐซึ่งเป็นภาพจากในภาพยนตร์ ทำให้หลายคนมองว่าบรรยากาศของทะเลทรายไว้เป็นเช่นนั้นซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นเช่นนั้นแต่ก็ไม่ทั้งหมดครับ เพราะว่าทะเลทรายในบางพื้นที่ก็แทบไม่มีบรรยากาศอย่างที่ผมเขียนไว้ข้างต้นโดยทะเลทรายในบางพื้นที่ก็มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากซึ่งขนาดที่ไม่ใหญ่โตทำให้ถูกดัดแปลงให้เป็นจุดท่องเที่ยว

สำหรับในประเทศเวียดนามก็มีทะเลทรายให้ได้ไปเที่ยวกัน แม้ว่าบรรยากาศของทะเลทรายในเวียดนามจะดูแตกต่างจากทะเลทรายในทวีปแอฟริกาหรือในโซนตะวันออกกลาง แต่ทะเลทรายของเวียดนามก็เป็นจุดท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวมาเยือนกันมากพอสมควร โดยจุดที่ตั้งของทะเลทรายก็อยู่ในเมืองมุยเน่ โดยจะมีทะเลทรายให้ได้ไปชมอยู่ 2 แห่งด้วยกันซึ่งก็คือ ทะเลทรายขาวกับทะเลทรายแดงซึ่งผมได้ไปเที่ยวมาแล้วทั้ง 2 แห่งแต่ในทริปล่าสุดผมไปสำรวจเพียงแค่ทะเลทรายแดงเพียงที่เดียวเท่านั้น

สำหรับทะเลทรายแดงในเมืองมุยเน่ดูแล้วไม่ค่อยสวยงามมากเท่าไหร่และมีพื้นที่เล็กทะเลทรายขาวอยู่พอสมควร แต่ถึงกระนั้นก็เป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาชมกันซึ่งไฮไลท์เด่นๆของที่นี่ก็คือ การชมพระอาทิตย์ตกดินในช่วงเวลาเย็นและอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ผมเห็นหลายคนทำกันก็คือ การเล่นสไลเดอร์บนทะเลทรายซึ่งจะมีแผ่นรองซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นกระดาษแข็งๆและพวกแม่ค้าจะนำมาจำหน่ายแก่นักท่องเที่ยว โดยในครั้งล่าสุดที่ผมไปก็ได้กลุ่มนักท่องเที่ยวอยู่ประมาณนึงซึ่งก็มีทั้งคนมาเล่นสไลเดอร์และคนที่มานั่งรอชมพระอาทิตย์ตกดิน


พื้นที่ด้านหน้าทางเข้าจะมีกลุ่มแม่ค้าขายแผ่นรอง
ซึ่งใช้ในการเล่นสไลเดอร์บนทะเลทรายแดง

ทะเลทรายแดงมุยเน่มีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่มาก
และลักษณะก็ดูเหมือนเป็นแค่เนินทรายมากกว่า

นักท่องเที่ยวส่วนมากมากันเป็นแบบกรุ๊ปทัวร์
ซึ่งจะมีโปรแกรมเที่ยวแบบวันเดย์ทริปเพื่อสำรวจเมืองมุยเน่

การเล่นสไลเดอร์ลงไปยังพื้นที่ด้านล่างเป็นไฮไลท์หลัก
สำหรับการมาเที่ยวที่ทะเลทรายแดงมุยเน่

อีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดก็คือ การชมพระอาทิตย์ตกดิน
ในช่วงเวลาเย็นซึ่งมีความสวยงามไม่น้อย


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
26 กุมภาพันธ์ 2568

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

 

EP.187 อาคารเมงกุกัต


หากเอ่ยชื่อของ ซูการ์โน สำหรับผู้ที่ชื่นชอบในด้านประวัติศาสตร์ของการเมืองการปกครองน่าจะคุ้นชื่อของเขาเป็นอย่างดี โดยที่ซูการ์โนก็คืออดีตประธานาธิบดีคนแรกของประเทศอินโดนีเซียในช่วงระหว่างปี 1945 - 1967 โดยการขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศของเขาก็เกิดขึ้นหลังจากที่อินโดนีเซียประกาศอิสรภาพอย่างเป็นทางการจากเนเธอร์แลนด์ นอกจากนั้นเขายังเปรียบได้ดั่งกับวีรบุรุษของชาวอินโดนีเซีย เพราะก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีเขาเป็นผู้มีส่วนสำคัญในการทำให้อินโดนีเซียได้รับเอกราช

ซูการ์โนมีบทบาทสำคัญในช่วงการต่อสู้เพื่อเรียกร้องอิสรภาพให้แก่อินโดนีเซีย แต่การกระทำของเขาทำให้ถูกจับกุมและคุมขังโดยฝ่ายเจ้าอาณานิคมอย่างเนเธอร์แลนด์ โดยสถานที่ที่ใช้ในการคุมขังและพิจารณาคดีการก่อกบฎของซูการ์โนก็ตั้งอยู่ในเมืองบันดุงซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่เกาะชวา แต่ถึงแม้จะถูกคุมขังและตัดสินโทษให้เป็นกบฎ แต่ทางซูการ์โนก็ไม่คิดจะยอมแพ้และหาหนทางที่จะทำให้ชาติบ้านเกิดได้รับอิสรภาพซึ่งในที่สุดเขาและพรรคพวกก็ทำได้สำเร็จจนอินโดนีเซียสามารถประกาศอิสรภาพจากเนเธอร์แลนด์ได้

ส่วนในปัจจุบันสถานที่ที่เคยคุมขังซูการ์โนก็ถูกปรับเปลี่ยนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของเมืองบันดุงโดยมีชื่อว่า อาคารเมงกุกัต และได้เปิดให้บุคคลทั่วไปได้เข้าชมอย่างเป็นทางการในช่วงกลางปี 2007 ซึ่งทุกคนสามารถเข้าชมกันได้โดยที่ไม่มีค่าเข้าชมซึ่งบรรยากาศด้านภายในจะเห็นในส่วนของทั้งห้องพิจารณาคดีซึ่งเคยใช้ตัดสินคดีของซูการ์โนในข้อหากบฎ จุดของห้องอ่านหนังสือซึ่งซูการ์โนได้อ่านหนังสืออย่างมากมายในช่วงระหว่างถูกคุมขังและยังมีประวัติรวมถึงภาพถ่ายของซูการ์โนรวมถึงพรรคพวกของเขาที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชและอิสรภาพให้กับชนชาติอินโดนีเซีย


อาคารเมงกุกัต ตั้งอยู่ในเมืองบันดุงของประเทศอินโดนีเซีย
ซึ่งในอดีตเคยใช้เป็นสถานที่คุมขังและที่พิพากษาคดีของนักโทษ

จุดของห้องพิพากษาซึ่งเคยใช้พิพิพากษาคดีของซูการ์โน
ซึ่งเป็นอดีตประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย

ซูการ์โนและพรรคพวกของเขาเคยถูกจับกุมในข้อหา
ก่อการกบฎต่อเจ้าอาณานิคมอย่างเนเธอร์แลนด์

ช่วงที่ซูการ์โนถูกจับคุมขัง เขามักใช้เวลาส่วนใหญ่
ในการอ่านหนังสือและศึกษาข้อมูลต่างๆ

ปัจจุบันจุดที่เคยใช้คุมขังและพิพากษาคดีของซูการ์โน
ถูกปรับเปลี่ยนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว อาคารเมงกุกัต
ยังถูกใช้เป็นจุดสัมมนาหรือจัดกิจกรรมเกี่ยวกับงานศิลปะ


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
18 กุมภาพันธ์ 2568

วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

 

EP.186 สวนธนบุรีรมย์


ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบการวิ่งออกกำลังกายและชอบไปนั่งพักผ่อนชมบรรยากาศในสวนสาธารณะ เนื่องจากเวลาที่ผมออกไปทำธุระข้างนอกผมมักจะมีความรู้สึกเบื่อกับสภาพการจราจรที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและสถานที่ที่สามารถหลีกหนีความวุ่นวายจากภายนอกได้และไม่เสียเงินค่าเข้าก็คือ สวนสาธารณะ นี่แหละครับซึ่งบรรยากาศของสวนสาธารณะที่มีต้นไม้มากมายก็เปรียบเสมือนปอดใจกลางเมืองซึ่งให้ความสดชื่นและความร่มรื่นแก่ผู้ที่เข้ามาใช้บริการ

สำหรับสวนสาธาณะที่ผมไปบ่อยมากที่สุดก็ตั้งอยู่ในละแวกแถบชานเมืองของกรุงเทพมหานครซึ่งก็คือ สวนธนบุรีรมย์ โดยผมมีความผูกพันกับสวนธนบุรีรมย์ทั้งการเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้บ้านมากที่สุดรวมถึงในสมัยที่ผมเป็นนักศึกษาผมก็มักแวะมาพักผ่อนอยู่เป็นประจำ โดยที่สวนธนบุรีรมย์เป็นสวนสาธารณะที่มีพื้นที่กว่า 63 ไร่ในช่วงยุคอดีตเคยเป็นสวนผลไม้แต่ในปีพุทธศักราช 2511 ก็ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็นสวนสาธารณะตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในสมัยนั้น

ส่วนในยุคปัจจุบันบรรยากาศของสวนธนบุรีรมย์ก็ถือว่ามีความร่มรื่นไม่ต่างจากสวนสาธารณะที่อื่นๆในประเทศไทย โดยจะมีจุดของทางเดินและวิ่งสำหรับคนที่มาออกกำลังกาย นอกจากนั้นยังมีจุดของชมรมเพาะกายซึ่งมีเครื่องยกน้ำหนักและอุปกรณ์การเล่นเวทไว้คอยบริการสำหรับคนที่อยากจะเล่นกล้ามรวมทั้งยังมีจุดของสนามเด็กเล่น โต๊ะปิงปอง และมีส่วนของลานกว้างซึ่งมักจะมีคนมานั่งพูดคุยบางคนมาตีแบดมินตัน บางคนก็มากันแบบครอบครัวซึ่งพ่อแม่พาลูกมาเดินเล่นโดยในช่วงเวลาเย็นของช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์บรรยากาศจะมีความคึกคักเป็นอย่างมาก


สวนธนบุรีรมย์เป็นสวนสาธารณะมาค่อนข้างบ่อย
เพราะอยู่ใกล้บ้านและเดินทางสะดวก

ในช่วงเวลาเย็นจะเห็นผู้คนมาวิ่งออกกำลังกายกันพอสมควร

จะมีการแบ่งระหว่างช่องที่ใช้เดินกับช่องที่ใช้วิ่ง

มีการตั้งเครื่องออกกำลังกายให้ผู้คนได้มายืดเส้นยืดสาย

พวกพี่ๆลุงๆน้าๆกลุ่มนี้กำลังล้อมวงเตะลูกขนไก่
ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมทั้งในเวียดนามและสิงคโปร์

มีจุดของสระน้ำซึ่งจะมีลานน้ำพุเล็กๆให้ได้ชมกันด้วย

บริเวณสนามเด็กเล่นจะเป็นบรรยากาศแบบครอบครัว
ที่พ่อแม่จะพาลูกหลานมาเล่นเครื่องเล่นต่างๆ

พื้นที่ตรงนี้เป็นลานสนามหญ้าซึ่งผมจะเห็นกิจกรรมต่างๆ
ทั้งการนั่งพูดคุย การถ่ายรูปหรือแม้แต่การเล่นแบดมินตัน


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
12 กุมภาพันธ์ 2568

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

 

EP.185 นั่งรถไฟฟ้าในนครโฮจิมินห์


รถไฟฟ้าในนครโฮจิมินห์ของประเทศเวียดนามเพิ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อไม่นานนัก โดยวันที่เปิดบริการครั้งแรกก็คือวันที่ 22 ธันวาคม 2024 ซึ่งในระยะแรกจะเป็นการให้บริการฟรีแก่พี่น้องประชาชนเป็นระยะเวลา 1 เดือนหลังจากนั้นก็จะเปิดให้บริการแบบเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบซึ่งจะมีการเก็บค่าโดยสารซึ่งราคาก็จะลดหลั่นกันไปตามระยะทางซึ่งมาตรการนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากตอนที่กรุงเทพมหานครมีรถไฟฟ้าสายแรกเมื่อปีพุทธศักราช 2542

ผมได้ยินข่าวการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายแรกในนครโฮจิมินห์ก็มีความสนใจที่อยากจะไปทดลองใช้บริการและรีวิวเส้นทางให้ท่านผู้ชมได้เห็นกันซึ่งผมก็มีโอกาสได้ไปนั่งรถไฟฟ้าที่นครโฮจิมินห์ในช่วงก่อนวันสิ้นปี 2024 โดยที่ผมเลือกนั่งตั้งแต่สถานีต้นทางไปจนถึงสถานีปลายทางซึ่งรถไฟฟ้าสายแรกของนครโฮจิมินห์จะให้บริการทั้งสิ้น 14 สถานีซึ่งเริ่มตั้งแต่สถานีเบนถั่นไปจนถึงสถานีซ้วยเตี่ยน

สำหรับสถานีเบนถั่นเปรียบได้ดั่งสถานีต้นทางเป็นสถานีขนาดใหญ่มีขนาดกว้างขวางและยังเชื่อมต่อกับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอย่าง ตลาดเบนถั่น ซึ่งที่นี่จะเป็นจุดที่มีผู้คนมาใช้บริการกันอย่างมากมายและการที่รถไฟฟ้าให้บริการฟรีก็ยิ่งเต็มไปด้วยผู้คนชาวเวียดนามทุกเพศทุกวัยทั้งคนทำงาน เด็ก คนเฒ่าคนแก่รวมไปถึงพวกบรรดานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ต่างมาสัมผัสประสบการณ์การนั่งรถไฟฟ้าสายแรกในนครโฮจิมินห์ด้วยเช่นกัน

ส่วนระยะทางจะมีทั้งสิ้น 19.7 กิโลเมตรและเท่าที่ผมสังเกตุก็พบว่ารถไฟฟ้าของที่โฮจิมินห์จะผ่านสถานที่สำคัญต่างๆมากกว่ารถไฟฟ้าในกรุงฮานอย โดยสถานที่สำคัญที่รถไฟฟ้าวิ่งผ่านก็จะมีทั้ง ตลาดเบนถั่น โรงละครโอเปร่า สวนสาธารณะวันทันไปจนถึงสถานีปลายทางซึ่งจะเชื่อมต่อกับสถานีขนส่งเมียนดงแห่งใหม่ ส่วนบรรยากาศก็ดูคึกคักและแออัดไปด้วยผู้คนครับ เพราะด้วยความที่ให้บริการฟรีและเป็นรถไฟฟ้าสายแรกในนครโฮจิมินห์หลังจากรอคอยมายาวนานกว่า 17 ปีทำให้ชาวเวียดนามดูจะตื่นเต้นและตื่นตาตื่นใจกับรถไฟฟ้าสายแรกของนครโฮจิมินห์มากพอสมควร


สถานีรถไฟฟ้าเบนถั่นเป็นสถานีต้นทาง
สำหรับรถไฟฟ้าสายแรกในนครโฮจิมินห์

บรรยากาศภายในสถานีรถไฟฟ้าเบนถั่น
ดูแล้วมีขนาดใหญ่โตแลละกว้างขวางอยู่ไม่น้อย

จุดทางเข้าเพื่อไปยังชานชาลาที่สถานีเบนถั่น

แผนผังเส้นทางของรถไฟฟ้าในนครโฮจิมินห์
ซึ่งจะมีการขยายเส้นทางเพิ่มในอนาคต

ชานชาลาที่สถานีรถไฟฟ้าเบนถั่น
เต็มไปด้วยผู้คนที่มารอใช้บริการ

ผู้โดยสารบนรถไฟฟ้ามีจำนวนมากทั้งคนเวียดนาม
รวมไปถึงชาวต่างชาติ

รถไฟฟ้าจะวิ่งผ่านทั้งสิ้น 14 สถานีจากสถานีเบนถั่น
และมาสิ้นสุดที่สถานีปลายทางคือ สถานีซ้วยเตี่ยน


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
6 กุมภาพันธ์ 2568

วันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

 

EP.184 ตลาดกลางคืนบานาเว


ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีเกาะอยู่หลากหลายแห่งโดยสำหรับกรุงมะนิลาซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศก็ตั้งอยู่บนเกาะลูซอน โดยพื้นที่บนเกาะลูซอนก็มีเมืองต่างๆอยู่มากมายซึ่งมีเอกลักษณ์และมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยในช่วงเดือนเมษายนของปี 2023 ผมได้ไปเที่ยวฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรกในชีวิตและเลือกเที่ยวอยู่บนเกาะลูซอนซึ่งเมืองที่ผมได้ไปท่องเที่ยวก็มีทั้งมะนิลา บานาเวรวมไปถึงแองเจเลสซิตี้

สำหรับเมืองบานาเวก็ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะลูซอนและอยู่ห่างจากกรุงมะนิลาเกือบ 10 ชั่วโมงโดยที่ผมได้นั่งรถบัสตอนกลางคืนและไปถึงบานาเวก็เป็นช่วงเช้าตรู่ สำหรับสถานที่ที่เป็นไฮไลท์ของการมาที่บานาเวก็คือ นาขั้นบันไดบานาเว ซึ่งผมก็ได้ไปชมมาเมื่อตอนช่วงกลางวัน ขณะที่ในช่วงกลางคืนผมได้ไปเดินเที่ยวชมบรรยากาศใจกลางเมืองซึ่งมีตลาดกลางคืนให้ได้ชมกัน

สำหรับตลาดกลางคืนของที่เมืองบานาเวก็มีลักษณะที่ไม่แตกต่างจากตลาดท้องถิ่นอื่นๆของหลายประเทศ โดยสินค้าที่ขายกันส่วนใหญ่จะเน้นไปทางของกินซึ่งด้วยความที่อากาศของบานาเวค่อนข้างที่จะหนาวเย็นในช่วงกลางคืนทำให้ของกินที่นี่มักจะขายเป็นพวกของทอดของย่างและของที่ทานกันแบบร้อนๆอย่างเช่น ข้าวโพดย่าง ไก่ย่าง หมูทอดและยังมีเมนูของกินประจำชาติของฟิลิปปินส์อีกมากมาย นอกจากนั้นยังมีสินค้าพวกเสื้อผ้าขายเช่นกันรวมทั้งยังมีการแสดงรอบกองไฟของชนเผ่าอิฟูเกาซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองในบานาเวซึ่งกิจกรรมนี้เป็นไฮไลท์สำคัญและมีผู้คนจำนวนมากที่มารอชมการแสดงรอบกองไฟอันน่าตื่นตาตื่นใจ


ตลาดกลางคืนบานาเวตั้งอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง
โดยเป็นตลาดท้องถิ่นที่เน้นขายพวกของกินเป็นหลัก

ของกินที่ขายส่วนใหญ่จะเป็นพวกของทอดของย่าง
โดยเมนูอย่างข้าวโพดย่างค่อนข้างจะขายดี

นอกจากนั้นก็ยังมีพวกผลไม้ต่างๆวางขายเช่นกัน

นอกจากนั้นยังมีพวกสินค้าพื้นเมืองขายซึ่งเป็น
สินค้าแฮนด์เมดซึ่งมีทั้งเสื้อ กระเป๋า ผ้าพันคอ

สาวฟิลิปปินส์กำลังเพลิดเพลินกับการถ่ายรูปสติ๊กเกอร์

กิจกรรมเต้นรอบกองไฟ คือ ไฮไลท์เด็ดของที่นี่
ซึ่งเป็นการแสดงของชนพื้นเมืองอิฟูเกา

ผู้คนจำนวนมากมาจับจองพื้นที่เพื่อรอชม
การแสดงเต้นรอบกองไฟของชนพื้นเมืองอิฟูเกา


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
1 กุมภาพันธ์ 2568