วันจันทร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

 

EP.101 สถานีรถไฟยอร์กยาการ์ตา


หลังจากที่ได้มาทำคลิปการเดินทางท่องเที่ยว ผมก็มีโอกาสได้ใช้บริการรถไฟอยู่บ่อยครั้งไม่ว่าจะเป็นรถไฟไทยหรือรถไฟของต่างแดนซึ่งการนั่งรถไฟมันก็มีเสน่ห์ในตัวและหาไม่ได้จากการโดยสารยานพาหนะอื่นๆซึ่งการที่ผมนั่งรถไฟบ่อยนั่นจึงทำให้ผมได้มีโอกาสแวะเวียนไปยังสถานีรถไฟตามที่ต่างๆอยู่หลายแห่งและหนึ่งในสถานีรถไฟที่ผมได้ไปเยี่ยมเยือนก็คือ สถานีรถไฟยอร์ยาการ์ตา ซึ่งตั้งอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย

สถานีรถไฟยอร์กยาการ์ตาเป็นสถานีรถไฟที่มีความสำคัญและเป็นสถานีรถไฟขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเกาะชวาของอินโดนีเซีย โดยสถานีรถไฟยอร์กยาการ์ตานับว่าเป็นหนึ่งในเส้นทางรถไฟสายตะวันตกของเกาะชวา โดยเส้นทางยอดนิยมก็จะมีจาการ์ตา บันดุง ยอร์กยาการ์ตาและไปสิ้นสุดที่สุราบายาซึ่งด้วยความที่ผมไปเที่ยวอินโดนีเซียเป็นครั้งแรกผมได้ตัดสินใจไปเที่ยวบนเกาะชวาซึ่งเหตุผลหลักๆก็คงหนีไม่พ้นการไปสัมผัสบรรยากาศของรถไฟอินโดนีเซียนี่แหละครับ

สถานีรถไฟยอร์กยาการ์ตาจากการที่ผมได้ไปสำรวจมาก็พบว่าเป็นสถานีที่มีขนาดใหญ่และในแต่ละวันจะมีผู้โดยสารมาใช้บริการมากพอสมควร นอกจากนั้นยังเป็นสถานีรถไฟที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนั่นทำให้การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบายเป็นอย่างมาก โดยที่ตั้งของสถานีรถไฟจะอยู่บริเวณติดกับถนนมาริโอโบโร่ซึ่งเป็นถนนสายท่องเที่ยวแห่งเมืองยอร์กยาการ์ตาซึ่งด้วยความที่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองนั่นจึงทำให้มีพวกโรงแรม ร้านอาหารต่างๆมากมายตั้งเรียงรายอยู่รอบๆสถานีรถไฟ

ส่วนบรรยากาศภายในของสถานีรถไฟที่อินโดนีเซียจะมีความแตกต่างจากบ้านเราตรงที่ต้องมีการสแกนตั๋วโดยสารทุกครั้งก่อนที่จะเดินไปยังจุดของชานชาลา ดังนั้นหากใครไม่มีตั๋วโดยสารก็จะไม่สามารถไปยังจุดของชานชาลาได้ ส่วนจุดอื่นๆที่ผมเห็นจะมีพวกจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารซึ่งมีทั้งรถไฟทางไกลที่วิ่งระหว่างเมืองรวมไปถึงรถไฟที่เชื่อมต่อเข้าสู่สนามบินยอร์กยาการ์ตา นอกจากนั้นก็ยังมีจุดของร้านอาหาร ห้องละหมาดและจุดเสียบชาร์ตแบตมือถือไว้คอยบริการแก่ผู้โดยสารที่มาใช้บริการรถไฟ


บรรยากาศบริเวณด้านหน้าของสถานีรถไฟยอร์กยาการ์ตา

บริเวณรอบๆสถานีรถไฟจะเต็มไปด้วยโรงแรม
รวมไปถึงร้านค้าและร้านอาหารมากมาย

จุดจำหน่ายตั๋วโดยสารที่สถานีรถไฟยอร์กยาการ์ตา
ซึ่งมีทั้งรถไฟทางไกลและรถไฟที่เชื่อมเข้าสู่สนามบิน

จุดเช็คอินสำหรับผู้โดยสารที่ทำการจองตั๋วมาเรียบร้อยแล้ว

จุดสำหรับเสียบชาร์จแบตมือถือ
ซึ่งปลั๊กที่อินโดนีเซียจะมีความแตกต่างจากเมืองไทย

ร้านค้าที่ตั้งอยู่ภายในสถานีรถไฟยอร์กยาการ์ตา
ซึ่งร้านโรตีโอเป็นร้านที่พบเห็นได้ในทุกๆสถานี

สถานีรถไฟที่อินโดนีเซียจะให้ผู้โดยสารสแกนตั๋วทุกครั้ง
ก่อนที่จะเดินเข้าไปยังจุดของชานชาลา

บริเวณพื้นที่ชานชาลาซึ่งในแต่ละวันจะมีรถไฟหลายขบวน
มาเข้าจอดเพื่อรับส่งผู้โดยสาร

ผู้โดยสารบางส่วนกำลังนั่งรอรถไฟ โดยจุดหมายหลักๆ
ก็มีทั้งที่จาการ์ตา บันดุงและสุราบายา


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
29 พฤษภาคม 2566

วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

 

EP.100 ป่าในเมือง
บาบากัน สิริวังกิ


สังคมเมืองคือสังคมที่มักจะมีผู้คนอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมากซึ่งถ้าหากเป็นเมืองหลวงหรือเมืองใหญ่หรือเมืองสำคัญต่างๆจำนวนผู้คนก็จะยิ่งมีเป็นจำนวนมาก สาเหตุก็คงเป็นเพราะตามเมืองใหญ่มักจะมีแหล่งทำงานอยู่อย่างมากมาย รวมไปถึงความสะดวกสบายต่างๆทั้งเทคโนโลยีรวมไปถึงการคมนาคมและเรื่องของการอุปโภคบริโภคซึ่งถ้าเป็นเมืองไทยบ้านเรา ผมว่ากรุงเทพมหานครก็คือตัวอย่างที่ชัดเจนของเมืองหลวงและเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยความเจริญและมีผู้คนอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก

สำหรับที่อินโดนีเซียนั้นมีเมืองหลวงก็คือ กรุงจาการ์ตา ซึ่งก็แน่นอนครับว่าบรรยากาศค่อนข้างจะเต็มไปด้วยความแออัดและหนาแน่นของบรรดาผู้คนไม่ต่างจากกรุงเทพมหานครเท่าไหร่นัก ส่วนที่เมืองบันดุงซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจาการ์ตาไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็เป็นอีกหนึ่งเมืองใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเกาะชวา แม้ความหนาแน่นอาจจะดูไม่เยอะเท่ากับที่จาการ์ตา แต่จากการที่ผมได้ไปสัมผัสและเห็นบรรยากาศมาก็ต้องยอมรับว่ามีผู้คนอาศัยอยู่ที่เมืองบันดุงอยู่พอสมควร เพราะนี่คือเมืองใหญ่าน่าจะเป็นอันดับที่ 3 หรือ 4 ของอินโดนีเซียเลยทีเดียว

เมืองบันดุงที่ผมกล่าวถึงไปนับว่าเป็นเมืองใหญ่ของอินโดนีเซีย ทำให้เรื่องความแออัดและเรื่องของการจราจรก็สร้างปัญหาให้แก่บรรดาชาวเมืองอยู่ไม่น้อยซึ่งการที่คนเราเจอปัญหาเรื่องการจราจรความแออัดและความวุ่นวายทำให้อาจเกิดความเบื่อหน่ายได้ซึ่งทางการของเมืองบันดุงเขาก็ได้ตระหนักถึงปัญหาข้อนี้นั่นจึงทำให้ได้มีการสร้างป่าในเมืองที่ชื่อว่า บาบากัน สิริวังกิ ซึ่งจุดประสงค์ในการสร้างก็เพื่อต้องการให้เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองบันดุงนั่นเอง

ป่าในเมือง บาบากันสิริวังกิ เปรียบเสมือนปอดของชาวเมืองบันดุงซึ่งตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองซึ่งหากใครที่ต้องการหลีกหนีความวุ่นวายจากด้านภายนอกก็เหมาะอย่างมากที่จะมาพักผ่อนชมธรรมชาติจากด้านใน เพราะว่าบรรยากาศของป่าในเมืองบาบากันสิริวังกิจะเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ที่ให้ความสดชื่นและร่มรื่นแก่ผู้ที่เข้ามาสัมผัสบรรยากาศ นอกจากนั้นยังมีพวกร้านคาเฟ่เล็กๆไว้สำหรับทานเครื่องดื่มและนั่งแบบชิวๆในบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติที่ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์จึงนับได้ว่าป่าในเมืองบาบากันสิริวังกิเป็นแหล่งพักผ่อนชั้นดีและเหมาะแก่การหลีกหนีบรรยากาศความวุ่นวายจากภายนอกได้เป็นอย่างดี


ป่าในเมืองบาบากัน สิริวังกิ เป็นป่าธรรมชาติที่มนุษย์สร้างขึ้น
โดยตั้งอยู่ที่เมืองบันดุงของประเทศอินโดนีเซีย

จุดชมธรรมชาติจะมีสะพานขนาดใหญ่ให้ได้เดินชมกันเพลินๆ
แต่ต้องระวังสักหน่อยเพราะบางจุดมีความชันและคดเคี้ยว

ในแต่ละวันจะมีชาวเมืองบันดุงเข้ามาชมธรรมชาติ
และพักผ่อนหลีกหนีความวุ่นวายกันเป็นจำนวนมาก

บรรยากาศภายในป่าในเมืองบาบากัน สิริวังกิ
จะมีการปลูกต้นไม้หลากหลายชนิด

จุดนั่งพักผ่อนซึ่งจะมีร้านคาเฟ่เล็กๆซึ่งจะมี
พวกเครื่องดื่มไว้คอยบริการทั้งกาแฟและชา

ผู้คนชาวเมืองบันดุงมักจะแวะกันมาอยู่ตลอดในทุกๆวัน
เพราะสถานที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซึ่งเดินทางมาไม่ยาก

ป้ายคำเตือนและข้อห้ามต่างๆก่อนที่จะเข้าไปชมธรรมชาติ


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
23 พฤษภาคม 2566

วันพุธที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

 

EP.99 ถนนมาริโอโบโร่


เวลาที่ผมออกเดินทางไม่ว่าจะในไทยหรือต่างประเทศสถานที่ที่มักจะต้องไปให้เห็นกับตาทุกครั้งก็จะมีตลาดท้องถิ่นและอีกจุดนึงที่ขาดไม่ได้นั่นก็คือ ถนนคนเดิน ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งที่จะได้พบเห็นวิถีชีวิตของผู้คนโดยเฉพาะในช่วงเวลายามค่ำคืนซึ่งในแต่ละประเทศก็มักจะมีถนนคนเดินไว้เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวรวมไปถึงผู้คนท้องถิ่นที่จะมาเดินซื้อของจับจ่ายกันในช่วงเวลายามราตรี ทำให้บรรยากาศของถนนคนเดินมักจะคึกคักพอสมควร

ถนนมาริโอโบโร่เป็นถนนที่สำคัญที่ตั้งอยู่ในเมืองยอร์กยาการ์ตาของประเทศอินโดนีเซีย โดยในอดีตเป็นถนนที่ใช้ในเรื่องของการคมนาคมและการพานิชย์ซึ่งผู้ที่ก่อสร้างถนนสายนี้ขึ้นมาก็คือ เนเธอร์แลนด์ ซึ่งก็เป็นอดีตเจ้าอาณานิคมของอินโดนีเซียโดยผู้ที่อาศัยบริเวณถนนมาริโอโบโร่ในสมัยอดีตก็จะเป็นกลุ่มชาวเนเธอร์แลนด์หรือชาวดัตช์ซึ่งเป็นกลุ่มคนจากทางยุโรปที่มีฐานะ โดยจะใช้ถนนมาริโอโบโร่ในเรื่องของการเดินทางรวมไปถึงในด้านการค้าขาย

ปัจจุบันถนนมาริโอโบโร่ไม่ได้มีชาวดัตช์อาศัยเหมือนดั่งในอดีตอีกแล้ว เพราะตั้งแต่อินโดนีเซียได้รับเอกราชถนนมาริโอโบโร่ก็กลายมาเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กของเมืองยอร์กยาการ์ตา โดยบรรยากาศเท่าที่ผมได้ไปเดินสำรวจก็พบว่าจะเป็นถนนที่เต็มไปด้วยร้านค้าและร้านขายของมากมาย บริเวณตรงกลางเป็นถนนซึ่งรถยนต์สามารถผ่านสัญจรไปมาได้ ส่วนบริเวณริมทางก็จะสร้างเป็นทางเดินเท้าให้ผู้คนได้มาชมบรรยากาศและเดินเลือกซื้อสินค้าที่ตั้งขายกันอย่างเรียงรายเต็มทั้ง 2 ฝั่ง

นอกจากที่จะได้เห็นร้านค้าต่างๆมากมายแล้วบริเวณถนนมาริโอโบโร่ก็มักจะมีการแสดงดนตรีพื้นบ้านของอินโดนีเซียในแทบทุกๆคืนหรือพวกศิลปินที่มาร้องเพลงและเล่นดนตรีเปิดหมวก รวมไปถึงรถม้าที่จอดไว้คอยให้บริการแก่ผู้ที่สนใจจะลองนั่งเพื่อชมบรรยากาศของบริเวณถนนมาริโอโบโร่รวมไปถึงจุดต่างๆที่สำคัญในเมืองยอร์กยาการ์ตา โดยบรรยากาศในยามค่ำคืนจะคึกคักมากกว่าตอนกลางวันซึ่งดูแล้วก็ไม่แตกต่างจากถนนคนเดินในประเทศอื่นๆที่ความคึกคักมักจะอยู่ในช่วงยามราตรีหลังพระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว


ถนนมาริโอโบโร่ เป็นถนนคนเดินที่มีชื่อเสียง
ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองยอร์กยาการ์ตาของประเทศอินโดนีเซีย

ร้านรองเท้าบาจาก็มีขายอยู่บริเวณถนนมาริโอโบโร่เช่นกัน

ร้านสตรีทฟู้ดข้างทางก็มีให้เห็นได้เช่นกัน
โดยภาพนี้คือ ไก่สะเต๊ะ ซึ่งเป็นของกินขึ้นชื่อของอินโดนีเซีย

ร้านขายเสื้อผ้าคือสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย
เวลาไปเที่ยวบริเวณถนนคนเดินของประเทศต่างๆ

รถม้า หนึ่งในเอกลักษณ์ของเมืองยอร์กยาการ์ตา
ซึ่งจะมีให้บริการกันตลอดทั้งวัน

สตรีทฟู้ดของอินโดนีเซียมีให้เลือกทานกันอย่างมากมาย

การแสดงดนตรีพื้นบ้านของอินโดนีเซีย
มักจะมีให้เห็นกันในทุกๆค่ำคืน

มีการให้บริการเช่ารถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า
พร้อมกับมีราคาบอกแบบละเอียดชัดเจน


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
17 พฤษภาคม 2566

วันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

 

EP.98 ทามานซารี
โรงอาบน้ำของสุลต่าน


อากาศร้อนๆในช่วงเดือนเมษายนที่เพิ่งจบลงไปทำให้หลายคนอาจจะรู้สึกร้อนรน เบื่อหน่ายและไม่สบายตัวกันไปพอสมควรนะครับ พอขึ้นเดือนพฤษภาคมอากาศร้อนๆก็ยังไม่จางหายเพียงแต่เดือนนี้สำหรับเมืองไทยได้ชื่อว่าเป็นเดือนเริ่มต้นแห่งฤดูฝนซึ่งก็ต้องดูกันอีกว่าฝนจะมาถูกต้องตามฤดูกาลหรือเปล่าหรือว่าอากาศจะยังคงเพิ่มความร้อนระอุอยู่เหมือนเดิมซึ่งหลายคนมักมีคำแซวกันว่าเมืองไทยน่ะมี 3 ฤดูกาลคือ ร้อน ร้อนมากและร้อนแบบสุดๆ

ด้วยความที่อากาศร้อนของเมืองไทยประกอบกับผมมีเวลาประจวบเหมาะทำให้ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมจึงตัดสินใจหนีร้อนของเมืองไทยไปเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านอาเซียนของไทยซึ่งผมได้มีโอกาสไปเป็นครั้งแรกซึ่งนั่นก็คือ อินโดนีเซีย สำหรับการไปยังแดนอิเหนาครั้งนี้ของผม ผมเลือกเดินทางไปที่เกาะชวาก่อนซึ่งบนเกาะนี้เป็นที่ตั้งของเมืองหลวงของอินโดนีเซียด้วยซึ่งก็คือ กรุงจาการ์ตา

การเดินทางบนเกาะชวาของผมได้ไปที่จาการ์ตา บันดุงและยอร์กยาการ์ตาซึ่งอยู่ในเส้นทางรถไฟเดียวกันบนเกาะชวา โดยที่เมืองยอร์กยาการ์ตาผมได้มีโอกาสได้ไปเที่ยวอยู่สถานที่นึงซึ่งพอได้เห็นบรรยากาศแล้วก็อยากจะกระโดดลงไปในสระน้ำให้หายร้อน โดยสถานที่ที่ผมจะกล่าวถึงนี้ก็คือ ทามานซารีหรือหลายคนจะรู้จักกันดีว่าเคยเป็นอดีตโรงอาบน้ำของสุลต่านในเมืองยอร์กยาการ์ตา

ทามานซารี เป็นคำเรียกตามภาษาอินโดนีเซียซึ่งจากข้อมูลที่ผมไปอ่านมาที่แห่งนี้ครั้งนึงเคยเป็นที่ประทับและโรงอาบน้ำของบรรดาสุลต่านในเมืองยอร์กยาการ์ตา โดยเป็นสถานที่ที่จะเน้นในเรื่องของความสำราญและการพักผ่อนเป็นหลัก โดยสมัยก่อนทามานซารีจะมีบรรยากาศที่คึกคักอย่างมากช่วงหลังตะวันตกดินจะมีบรรดาผู้หญิงหลายคนมาเล่นน้ำอยู่ภายในสระ โดยจะมีสุลต่านคอยทอดพระเนตรอยู่บริเวณด้านบนทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการคัดเลือกผู้หญิงที่จะมาเป็นนางสนมและปรนนิบัติรับใช้สุลต่านในคืนนั้นนั่นเอง

ปัจจุบันทามานซารีกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในเมืองยอร์กยาการ์ตาและไม่มีทั้งสุลต่าน นางสนมหรือใครจะมาลงเล่นน้ำในสระอีกแล้ว แต่สภาพที่ผมได้เห็ในปัจจุบันต้องถือว่าทามานซารีเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก ส่วนบรรยากาศภายในก็จะมีทั้งสระน้ำอยู่มาณ 2-3 สระ จุดของที่ประทับของสุลต่านและนางสนมรวมถึงบรรดาสถาปัตยกรรมต่างๆซึ่งจะเป็นในรูปแบบของทางอินโดนีเซีย


ทามานซารี หรือโรงอาบน้ำของสุลต่าน
ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในเมืองยอร์กยาการ์ตา

ทามานซารีในอดีตเคยเป็นสถานที่พักผ่อนของสุลต่าน
โดยจะมีนางสนมมาเล่นในน้ำสระพร้อมคอยปรนนิบัตสุลต่าน

จุดของห้องแต่งตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้า

ห้องบรรทมของสุลต่านและบรรดานางสนม
โดยสุลต่านจะเป็นผู้คัดเลือกนางสนมด้วยตนเอง

บรรยากาศภายในทามานซารีจะมีการปลูกต้นไม้มากมาย
ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความสดชื่นและความร่มรื่นให้แก่สถานที่

สถาปัตยกรรมต่างๆภายในทามานซารี
ล้วนแต่ได้รับการออกแบบที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของอินโดนีเซีย

ราคาค่าเข้าชมสำหรับคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
ในแต่ะวันจะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอยู่ตลอด


คลิปวีดีโอ


เขียนโดย MarkMetalFootballTravel
1 พฤษภาคม 2566